ในระหว่างปี บริษัทยังคงเน้นการทำงานร่วมและสอดประสานกันในทั้ง 3 โรงงาน การบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ การควบคุมในเรื่องการบริหารเงินทุนหมุนเวียนอย่างเข้มงวด และการรักษาคุณภาพของผลิตภัณฑ์และบริการอย่างต่อเนื่อง
บริษัทรายงานผลการดำเนินงาน กำไรก่อนหักภาษีเงินได้ 84 ล้านบาท สูงกว่ารอบปีบัญชี 2556 (เมษายน 2555 - มีนาคม 2556) ที่มีผลขาดทุนก่อนภาษีอยู่ที่ (4,219) ล้านบาท ซึ่งยอดปีก่อนรวบยอดผลกระทบจากการด้อยค่าสินทรัพย์อยู่ (3,600) ล้านบาท หากไม่รวมยอดการด้อยค่าจะมีผลขาดทุนก่อนภาษีในอยู่ที่ (619) ล้านบาท
สำหรับผลงานที่ปรับปรุงในรอบปีบัญชี 2557 (เมษายน 2556-มีนาคม 2557) มาจากการควบคุมการใช้เงินทุนหมุนเวียนอย่างเข้มงวด เน้นการควบคุมต้นทุนการผลิตอย่างต่อเนื่อง ปรับปรุงผลิตภัณฑ์และคุณภาพการบริการ ซึ่งมีผลทำให้มีผลกำไรส่วนเกินต้นทุนผันแปรเพิ่มขึ้น 390 ล้านบาท รวมถึง ค่าเสื่อมราคาที่ลดลง 380 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการบันทึกการด้อยค่าสินทรัพย์จากปีก่อน โดยบริษัทมียอด EBITDA ที่ 1,006 ล้านบาท ดีกว่าปีก่อนที่มียอดอยู่ที่ 642 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี บริษัทมียอดกำไรก่อนหักภาษีเป็นบวกที่ 84 ล้านบาท EBITDA อยู่ที่ 1,006 ล้านบาท อย่างไรก็ตามยังคงต่ำกว่าเป้าหมาย 32% และ 7% ตามลำดับเนื่องจากสถานการณ์การเมืองที่ไม่แน่นอน แรงกดดันจากผลต่างราคาขายและราคาวัตถุดิบ อย่างไรก็ตามในกลุ่มสินค้าเหล็กลวดยังคงมีแรงกดดันอย่างต่อเนื่องจากสินค้านำเข้า