เนื่องจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้มีการอภิปรายและแสดงความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวาง โดยเสียงของผู้ถือหุ้นเสียงส่วนใหญ่ได้มีความเห็นตรงกันว่าหากบริษัทจะลดทุนโดยใช้วิธีการตัดลดจำนวนหุ้นลงจะมีผลทำให้ผู้ถือหุ้นได้รับผลกระทบและความเสียหายอันเนื่องจากจะทำให้จำนวนหุ้นของผู้ถือหุ้นเดิมทุกรายต้องสูญหายไปถึงจำนวน 8.1 เท่าตัว แต่ถ้าหากลดทุนโดยใช้วิธีการลดพาร์ จากเดิมหุ้นละ 0.10 บาท เป็นหุ้นละ 0.01 บาท จะไม่ค่อยเกิดผลกระทบต่อผู้ถือหุ้นเท่าใดนัก เพราะจำนวนหุ้นของผู้ถือหุ้นก็ยังคงเท่าเดิม
ที่ประชุมผู้ถือหุ้นจึงได้มีความเห็นและได้ลงมติเป็นเสียงส่วนใหญ่ให้การรับรองให้บริษัทเปลี่ยนแปลงวิธีการลดทุนจดทะเบียน (ทุนชำระแล้ว) โดยให้ใช้วิธีการลดพาร์ จากเดิมหุ้นละ 0.10 บาท ให้เป็นหุ้นละ 0.01 บาทแทน
ดังนั้น บริษัทจึงได้นำเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้พิจารณาอนุมัติให้ลดทุนจดทะเบียน (ทุนชำระแล้ว) ของบริษัทจากเดิม 12,361,843,869.20 บาท เหลือเป็นทุนจดทะเบียนใหม่ (ทุนชำระแล้ว) เพียงจำนวน 1,236,184,386.92 บาท โดยการลดพาร์จากหุ้นละ 0.10 บาท ให้เหลือเป็นพาร์หุ้นละ 0.01 บาท
ส่วนวาระที่ 12. วาระที่ 13. และ วาระที่ 14. นี้ เดิมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นให้พิจารณาเพิ่มทุนจดทะเบียน และจัดสรรเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) แต่เพียงวิธีการเดียวนั้น แต่เนื่องจาก ที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้มีการอภิปรายรวมกันไปในภาพรวม และแสดงความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวาง โดยเสียงของผู้ถือหุ้นเสียงส่วนใหญ่ตรงกันว่าหากบริษัทจะจัดสรรและเสนอขายหุ้นให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) แต่เพียงวิธีการเดียวจะเป็นการที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้ถือหุ้นเดิม ที่ผู้ถือหุ้นเดิมได้ยอมเสียสละที่จะให้มีการลดทุนจดทะเบียน(ทุนชำระแล้ว) เพื่อให้บริษัทสามารถที่จะนำส่วนเกินทุนที่จะเกิดขึ้นจากการลดทุนจดทะเบียน(ทุนชำระแล้ว)ดังกล่าว ไปชดเชย(ล้าง) กับยอดขาดทุนสะสมและ ยอดส่วนต่ำมูลค่าหุ้นที่มีอยู่ทั้งหมดของบริษัทฯรวมกันตามกฎหมายได้
ที่ประชุมผู้ถือหุ้นจึงได้มีความเห็นและได้ลงมติเป็นเสียงส่วนใหญ่ให้การรับรองให้บริษัทฯ เปลี่ยนแปลงวิธีการจัดสรรใหม่ โดยให้แบ่งการจัดสรรและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ จำนวน 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1.จำนวน 41,206,146,308 หุ้น จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม ในอัตราส่วน 3 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ และ ส่วนที่ 2. จำนวน 40,000,000,000 หุ้น จัดสรรให้แก่บุคคลในวงจำกัด(Private Placement)พร้อมกับให้ปรับตัวเลขการเพิ่มทุนจดทะเบียนใหม่ของบริษัทฯ เพื่อให้สอดคล้องกับจำนวนหุ้นที่จะจัดสรรใหม่ดังกล่าวข้างต้น
ดังนั้น บริษัทฯจึงได้นำเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นได้พิจารณาอนุมัติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ อีกจำนวน 812,061,463.08 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่จำนวน 81,206,146,308 หุ้น พร้อมให้แก้ไขหนังสือบริคณห์สนธิของบริษัทฯ เพื่อให้สอดคล้องกับการเพิ่มทุนจดทะเบียนใหม่