(เพิ่มเติม) BEAUTY เผยบิ๊กล็อต 10% กลุ่มผถห.ขายให้"Franklin Templeton Investments"

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday June 5, 2014 16:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.บิวตี้ คอมมูนิตี้ (BEAUTY) เปิดเผยว่า เนื่องจากในวันที่ 5 มิถุนายน 2557 บริษัทฯได้รับทราบว่ามีรายการ Big Lot เกิดขึ้นจำนวน 30 ล้านหุ้นหรือคิดเป็นร้อยละ 10.00% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว ให้แก่ Franklin Templeton Investments บริษัทขอชี้แจงให้ทราบว่ารายการ Big Lot ดังกล่าวเป็นการขายของบุคคลต่อไปนี้

1. นางธัญญาภรณ์ ไกรภูเบศ ขายหุ้นจำนวน 26.25 ล้ำนหุ้น(ร้อยละ 8.75) ทำให้มีสัดส่วนการถือหุ้นคงเหลือเท่ากับร้อยละ 12.92 ของทุนชำระแล้ว

2. นางทุเรียน ศรียงค์ ขำยหุ้นจำนวน 2.25 ล้ำนหุ้น (ร้อยละ 0.75)ทำให้มีสัดส่วนกำรถือหุ้นคงเหลือเท่ากับร้อยละ 4.99 ของทุนชำระแล้ว

3. นางสาวมณสุธาทิพ มลาอัครนันท์ ขายหุ้นจำนวน 1.00 ล้านหุ้น(ร้อยละ 0.33) ทำให้มีสัดส่วนการถือหุ้นคงเหลือเท่ากับร้อยละ 1.0 ของทุนชำระแล้ว

4. นายปรัชญา เลวัน ขายหุ้นจำนวน 0.50 ล้านหุ้น (ร้อยละ 0.17) ทำให้มีสัดส่วนการถือหุ้นคงเหลือเท่ากับร้อย 1.17 ของทุนชำระแล้ว

ทั้งนี้ บริษัทยังคงมีการดำเนินงานตามเดิม โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงอำนาจการบริหารงานของบริษัท

"Franklin Templeton Investments มีความสนใจและต้องการลงทุนในหุ้นของ BEAUTY ซึ่งน่าจะเป็นผลดีต่อบริษัท ในแง่ที่เราได้รับความเชื่อมั่นจากสถาบันการเงินที่ลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพทั่วโลก ว่าเป็นกิจการที่มีพื้นฐานที่ดี มีการบริหารจัดการที่เป็นที่ยอมรับและทำให้ภาพลักษณ์ของบริษัทดีขึ้น การที่มีสถาบันการเงินมาลงทุนในหุ้นของบริษัทน่าจะทำให้โครงสร้างผู้ถือหุ้นของกิจการแข็งแรงขึ้น ซึ่งผมมั่นใจว่าจะเป็นผลบวกต่อบริษัท" นพ.สุวิน ไกรภูเบศ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BEAUTY กล่าว

อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทยังคงถือหุ้นใหญ่ และอำนาจในการบริหารงานไม่มีการเปลี่ยนแปลง คณะผู้บริหารมีความตั้งใจและความพร้อมในการขยายธุรกิจ เพื่อสร้างผลประกอบการที่ดีอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงครึ่งปีหลังคาดการณ์ว่าจะมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีขึ้นอีก เนื่องมาจากกำลังซื้อของผู้บริโภคมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับบริษัทได้มีการปรับกลยุทธ์การทำงานของบุคลากร เพื่อสร้างยอดขายในสาขาเดิมให้มีการเติบโตมากยิ่งขึ้น

ขณะเดียวกันยังมุ่งเน้นขยายสาขาของ Shop Brand ต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ ออกผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อตอบรับความต้องการของตลาด และเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้มากขึ้น โดยเน้นไปที่ช่องทางการจำหน่ายสินค้าผ่านทางออนไลน์ ซึ่งเป็นช่องทางที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ เชื่อว่าจะสามารถสร้างการเติบโตของรายได้ไม่ต่ำกว่า 30% หรือ มีรายได้รวมไม่ต่ำกว่า 1,309 ล้านบาท และกำไรสุทธิเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% ตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน

สำหรับเป้าหมายการขยายสาขาในประเทศปีนี้มีจำนวนทั้งสิ้นรวม 65 สาขา ประกอบด้วย ในประเทศ BEAUTY BUFFET 30 สาขา BEAUTY COTTAGE 20 สาขา และ BEAUTY MARKET 15 สาขา ต่างประเทศ มีแผนเปิดสาขา BEAUTY BUFFET และ BEAUTY COTTAGE ในกลุ่มประเทศ CLMV : กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม จำนวน 13 สาขา พร้อมกับขยายช่องทางจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ MADE IN NATURE ไปสู่โมเดิร์นเทรดต่างๆอย่างครอบคลุม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ