บริษัท แดทโซ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น จากัด เป็นผู้นำเข้าสินค้าเครื่องสำอางและบริการเสริมความงาม, ร้านขายปลีกเครื่องสำอางแดทโซ ได้รับสิทธิเป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของกลุ่ม QUADRA จากประเทศอิตาลี แต่เพียงผู้เดียว ใน 34 ประเทศ ที่เกี่ยวกับเครื่องสำอางเสริมความงาม และมีนโยบายที่จะเปิดร้านเพี่อจำหน่ายสินค้าที่เกี่ยวกับเครื่องสำอางเสริมความงามและบำรุงผิว
ธุรกิจดังกล่าวเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพและมีแนวโน้มที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้นในอนาคต ดังนั้นการเข้าถือหุ้นของบริษัทจะถือเป็นการขยายประเภทของการดำเนินธุรกิจให้มีความหลากหลายมากขึ้นและเพิ่มรายได้และกำไรให้กับบริษัทในระยะยาว
นอกจากนี้กลุ่ม QUADRA ยังเป็นผู้ผลิตเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เกี่ยวกับความสวยงาม (Beauty Medical Equipment) ซึ่งจะเป็นการขยายฐานการตลาดลูกค้าในกลุ่มความงามให้แก่บริษัทในระยะยาวด้วย
“แบรนด์ That'so เป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมระดับโลก โดยดารา Hollywood ได้ให้การยอมรับและใช้ผลิตภัณฑ์นี้อยู่ ซึ่งคุณภาพที่ได้มาตรฐานนี้จะช่วยยกระดับคุณภาพ และความน่าเชื่อถือในธุรกิจความงาม และผิวหนังของไทย ที่มีแนวโน้มเติบโตขึ้นเรื่อยๆ" นายธีรวุทธิ์ กล่าว
สำหรับแหล่งเงินทุนที่ใช้ในการซื้อหุ้นสามัญของแดทโซมาจากเงินสดของบริษัท
นอกจากนี้ ได้อนุมัติให้บริษัทดำเนินการจำหน่ายหุ้นสามัญของบริษัท เอนโม จำกัด จำนวน 6,999,996 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 5 บาท คิดเป็นร้อยละ 100 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว โดยขายในราคาหุ้นละ 4.83 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 33.80 ล้านบาท และมอบหมายให้คณะกรรมการบริษัทดำเนินการหานักลงทุนที่มีความสนใจมารับซื้อหุ้นของบริษัท เอนโม จำกัดนั้น ต่อมาในเดือน มีนาคม 2557 บริษัท เอนโม จากัด ได้เรียกทุนชำระจาก 33.80 ล้านบาท เป็น 35.00 ล้านบาทเต็มจำนวนแล้ว
ขณะนี้คณะกรรมการบริษัทได้ดำเนินการหาผู้สนใจได้แล้ว และได้พิจารณาการจำหน่ายไปซึ่งหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัท เอนโม จำกัด ซึ่งบริษัทย่อยที่ EFORL ถือหุ้นอยู่ร้อยละ 100 ของทุนชำระแล้ว 35.0 ล้านบาท ให้แก่ผู้ซื้อนายกิติพงษ์ ธรรมชุตาภรณ์
ปัจจุบันเอนโมลงทุนในธุรกิจเกมออนไลน์ ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง หากยังคงดำเนินการต่อไปในธุรกิจนี้ เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ จะต้องใช้เงินลงทุนเป็นจำนวนมาก และต้องมีบุคลากรที่มีความชำนาญซึ่งหาได้ยากในตลาดแรงงานเป็นอุปสรรคต่อการดำเนินธุรกิจต่อไปในอนาคต
เมื่อพิจารณาสถานะทางการเงินและแนวโน้มการประกอบธุรกิจในอนาคตแล้ว คณะกรรมการบริษัทเห็นว่ามีความเหมาะสม เนื่องจากในระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาบริษัท เอนโม จากัด มีผลการดำเนินงานขาดทุนโดยตลอด ทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นลดลงจาก 33.8 ล้านบาท เหลือ 7.25 ล้านบาท ณ 31 ธันวาคม 2556
อย่างไรก็ตามบริษัท เอนโม จำกัด มีรายได้จากการให้บริการดีขึ้นจาก 14.96 ล้านบาทในปี 2555 เพิ่มขึ้นเป็น 20.53 ล้านบาทในปี 2556 และสามารถลดผลขาดทุนจาก 7.13 ล้านบาทในปี 2555 เป็นขาดทุน 0.18 ล้านบาทในปี 2556 และยังมีผลขาดทุนในไตรมาสที่ 1 ปี 2557 อีกจำนวน 0.5 ล้านบาท แต่เนื่องจากปัจจุบัน EFORL ได้เพิ่มการดำเนินธุรกิจมาเป็นตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ ซึ่งมีความชานาญมากกว่า ทำให้ธุรกิจการให้บริการสื่อโฆษณาและธุรกิจเกมส์ออนไลน์ที่เคยดำเนินการอยู่เดิมลดความสำคัญลงเป็นอย่างมาก
คณะกรรมการบริษัทพิจารณาแล้วเห็นว่าเข้าทำรายการขายหุ้นสามัญบริษัท เอนโม จำกัด ในมูลค่า 35.0 ล้านบาท นั้น จะทำให้บริษัทลดการขาดทุนจากเอนโม ซึ่งมีผลกระทบต่องบการเงินรวมของบริษัท และสามารถรับรู้กำไรพิเศษจากการกลับรายการเนื่องจากการสำรองในการลดลงของมูลค่าการลงทุนในบริษัท เอนโม จำกัด เป็นจำนวน 27.75 ล้านบาท อีกทั้งยังได้รับเงินสดจากการขายหุ้นดังกล่าวด้วย
"การจำหน่ายหุ้นของเอนโมในครั้งนี้ เนื่องจากธุรกิจของเอนโมประสบกับปัญหาขาดทุนมาโดยตลอด การที่บริษัทขายธุรกิจออกไปจะทำให้บริษัท สามารถนำทรัพยากรที่มีอยู่ ไปมุ่งเน้นในธุรกิจตัวแทนจำหน่ายเครื่องมือแพทย์ และบริษัทไม่จำเป็นต้องรับรู้ ผลขาดทุนในงบการเงินของเอนโมมารวมกับบริษัท ซึ่งจะทำให้บริษัทมีฐานะทางการเงินและผลการดำเนินงานดีขึ้น " นายธีรวุทธิ์ กล่าว