บริษัทฯ ได้มอบหมายให้ที่ปรึกษากฎหมายของบริษัทฯ ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้ความเห็นทางกฎหมายเพื่อเตรียมการต่อสู้คดีอย่างเต็มที่แล้ว โดยในเบื้องต้นพบว่าหนี้ทั้งหมดที่นำมาฟ้องนี้มาจากมูลหนี้ที่เคยมีการยื่นคำขอรับชำระหนี้ในการฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ ซึ่งธนาคารเมกะสากลพาณิชย์ จำกัด, ชินฮานแบงค์ และบริษัท บริหารสินทรัพย์ไทย (เอ) จำกัด มิได้มีรายชื่อเป็นเจ้าหนี้ของบริษัทฯ ตามแผนฟื้นฟูกิจการ
เนื่องจากการที่ศาลฎีกามีคำสั่งไม่เห็นชอบด้วยแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ อันเป็นที่มาของการฟ้องคดีทั้งหมดนั้น ศาลฎีกามิได้มีคำสั่งในเรื่องการที่บริษัทฯจะต้องชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้ไว้เป็นประการหนึ่งประการใดเลย คำสั่งของศาลฎีกาจึงมิได้มีผลทางกฎหมายชัดแจ้งและเด็ดขาดให้บริษัทฯ ต้องชำระหนี้ทั้งหมดตามจำนวนและข้ออ้างที่ระบุในคำฟ้องแต่อย่างใด นอกจากนั้นยังมีประเด็นที่จะต้องนำเอกสารหลักฐานมาพิสูจน์กันในศาลให้เห็นชัดแจ้งทั้งในข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเกี่ยวกับสิทธิและจำนวนหนี้ตามคำฟ้องดังกล่าว
บริษัทฯ เตรียมที่จะนำเสนอข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายประกอบอื่นๆ หลายประการต่อศาล เพื่อแสดงให้เห็นว่าคำฟ้องของโจทก์ไม่ชอบด้วยกฎหมาย