การเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพครั้งนี้ คาดว่าจะแล้วเสร็จในวันที่ 18 กันยายน 2557 (ภายหลังจากที่เงื่อนไขต่าง ๆ อันเป็นปกติของการเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพได้สำเร็จลง) และบริษัทจะนำหุ้นกู้แปลงสภาพเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (Singapore Exchange Securities Trading Limited) Bank of America Merrill Lynch, Credit Suisse บล.ภัทร และธนาคารไทยพาณิชย์ ทำหน้าที่เป็น Joint Bookrunners และ Joint Lead Managers สำหรับการเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพในครั้งนี้
นางนฤมล น้อยอ่ำ ประธานเจ้าหน้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน BGH กล่าวว่า การเสนอขายในครั้งนี้เป็นครั้งแรกของการเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพโดยบริษัทไทยให้แก่นักลงทุนในต่างประเทศเป็นสกุลเงินบาท แบบไม่มีดอกเบี้ย (Zero-coupon) การออกหุ้นกู้แปลงสภาพนี้เป็นการออกหุ้นกู้แปลงสภาพครั้งที่ 2 ของบริษัท หลังจากการออกครั้งแรกในปี 2549 จำนวน 124 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
สำหรับราคาแปลงสภาพเบื้องต้นกำหนดไว้ที่ 21.045 บาทต่อหุ้น โดยราคาปิดของหุ้นสามัญของบริษัทเมื่อบริษัทประกาศแผนการเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพในวันที่ 18 มิถุนายน 2557 เป็น 16.10 บาท นักลงทุนมีสิทธิขอไถ่ถอนหุ้นกู้ได้ ณ วันที่ 18 กันยายน 2560 ที่มูลค่า 106.152 ของมูลค่าเริ่มต้นของหุ้นกู้ของผู้ถือหุ้นกู้ที่ใช้สิทธิไถ่ถอนก่อนครบกำหนด
ขณะเดียวกัน บริษัทมีสิทธิไถ่ถอนหุ้นกู้ได้หลังจากวันที่ 18 มีนาคม 2560 หากราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้นอย่างน้อยร้อยยะ 130 ของราคาไถ่ถอนตามที่ระบุไว้ในข้อกำหนดสิทธิของหุ้นกู้ (Early Redemption Amount) หารด้วยอัตราแปลงสภาพ ณ ขณะนั้น ทั้งนี้ บริษัทมีแผนการใช้เงินซึ่งจะได้รับจากการออกหุ้นกู้แปลงสภาพครั้งนี้ เพื่อการดำเนินงานทั่วไปของบริษัท รวมทั้งการขยายงานของโรงพยาบาลและชำระคืนเงินกู้บางส่วนของบริษัท
การเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพในครั้งนี้เป็นการเสนอขายภายใต้หลักเกณฑ์และข้อกำหนดของ Regulation S ซึ่งเป็นการเสนอขายให้แก่เฉพาะนักลงทุนซึ่งอยู่นอกประเทศไทยและนอกประเทศสหรัฐอเมริกา จากการสำรวจความต้องการของนักลงทุนสถาบัน (Bookbuilding) การเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพของบริษัทได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน ทั้งในแถบทวีปเอเชียและทวีปยุโรป
"การออกหุ้นกู้แปลงสภาพของบริษัทที่เป็นสกุลเงินบาทแบบไม่มีดอกเบี้ยในครั้ง นี้ถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทยและเป็นการระดมทุนที่มีต้นทุนต่ำ อีกทั้งเป็นการขยายฐานนักลงทุนในต่างประเทศ และนับเป็นก้าวสำคัญที่จะสนับสนุนการขยายกิจการของบริษัท ทั้งนี้ บริษัทได้มีการขยายกิจการโดยมีการเพิ่มโรงพยาบาลและกิจการที่เกี่ยวข้องทาง การแพทย์เข้ามาในกลุ่มอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากการสร้างโรงพยาบาลใหม่และการควบรวมกิจการกับโรงพยาบาลอื่น โดยขณะนี้บริษัทมีโรงพยาบาลที่อยู่ระหว่างดำเนินการเปิดเพิ่มอีก 9 แห่ง และโรงพยาบาลภูเก็ตอินเตอร์เนชั่นแนล ที่บริษัทได้อยู่ระหว่างดำเนินการควบรวมกิจการ ซึ่งจะทำให้บริษัทมีโรงพยาบาลรวมทั้งสิ้น 44 แห่ง" นางนฤมล กล่าว