สืบเนื่องจากศาลฎีกามีคำพิพากษากลับคำพิพากษาของศาลล้มละลายกลาง โดยพิพากษาไม่เห็นชอบด้วยแผนฟื้นฟูกิจการและให้ยกเลิกคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการของ JAS ซึ่ง JAS เปิดเผยในหมายเหตุประกอบงบการเงินงวดไตรมาส 3/2556 ว่าคำพิพากษาดังกล่าวมีผลทำให้สิทธิเรียกร้องของเจ้าหนี้ที่มีต่อ JAS ในฐานะลูกหนี้ กลับไปเป็นเช่นเดิมดังที่เป็นอยู่ก่อนวันที่ศาลมีคำสั่งให้ฟื้นฟูกิจการ แต่ JAS ยังไม่ได้บันทึกหนี้สินดังกล่าวเนื่องจากเห็นว่ายังมีข้อมูลไม่เพียงพอที่จะประมาณหนี้สินที่ต้องบันทึกเพิ่มเติมได้อย่างเหมาะสม
การที่ JAS ยังไม่ได้บันทึกหนี้สิน ทำให้งบการเงินดังกล่าวไม่ถูกต้องตามมาตรฐานการบัญชี ก.ล.ต. จึงแจ้งให้ JAS แก้ไขงบการเงินดังกล่าว โดยให้บันทึกภาระหนี้สินจากคำพิพากษาของศาลฎีกาตามประมาณการที่ดีที่สุดของรายจ่ายที่คาดว่าจะต้องชำระภาระผูกพัน ซึ่งคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ เช่น มูลหนี้เดิมที่เคยถูกปลดหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการ สิทธิเรียกร้องในดอกเบี้ย และอายุความของคดี เป็นต้น และนำส่งงบการเงินฉบับแก้ไข ที่ผ่านการตรวจสอบ/สอบทานโดยผู้สอบบัญชีแล้วต่อ ก.ล.ต. พร้อมทั้งเปิดเผยต่อสาธารณชนภายในวันที่ 27 ตุลาคม 2557