เพื่อแลกกับค่าตอบแทนซึ่งจะประกอบด้วย (1) หุ้นสามัญเพิ่มทุนและใบสำคัญแสดงสิทธิของ NPARK และ/หรือ (2) เงินสดอีกจำนวนหนึ่งหากมีความเหมาะสม ซึ่งการกำหนดค่าตอบแทนดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับการเจรจาตกลงกันของคู่สัญญาต่อไป
ทั้งนี้ บริษัทฯ จะเข้าตรวจสอบวิเคราะห์สถานะกิจการ (Due Diligence) ของ NPARK และบริษัทย่อยของ NPARK และนำเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทฯ พิจารณาและอนุมัติการเข้าทำรายการอีกครั้งหนึ่ง
โดยมีรายละเอียดต่าง ๆ สรุปได้ดังนี้ ในวันนี้ (วันที่ 6 ตุลาคม 2557) ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้มีมติอนุมัติในหลักการให้บริษัทฯพิจารณาจำหน่ายหุ้นทั้งหมดในบริษัทย่อยสองแห่งในสายธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ บจ. บีทีเอส แอสเสทส์ ซึ่งเป็นเจ้าของโรงแรมอีสติน แกรนด์ สาทร กรุงเทพฯ โรงแรมสูง 33 ชั้น ซึ่งตั้งอยู่บริเวณถนนสาทร ติดกับสถานีรถไฟฟ้ บีทีเอสสุรศักดิ์ และเจ้าของที่ดินบริเวณถนนพหลโยธิน ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้ บีทีเอส หมอชิต และบจ. ก้ามกุ้ง พร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินบริเวณถนนพญาไท ติดกับสถานีรถไฟฟ้ บีทีเอส พญาไท โดยทั้งสองบริษัทย่อยถือครองอาคารและที่ดินรวมกันประมาณ 18 ไร่ มีมูลค่าตามราคาตลาดอยู่ที่ประมาณ 8,000 - 10,000 ล้านบาท
โดยจะพิจารณาขายให้แก่ NPARK ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในหมวดธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เพื่อแลกกับค่าตอบแทนในรูปของหุ้นสามัญที่ออกใหม่ของ NPARK ให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ในจำนวนไม่เกิน 213,000,000,000 หุ้น (คิดเป็นสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 37.06 ของหุ้นที่จำหน่ายแล้วทั้งหมดของ NPARK หลังจากเสร็จสิ้นการเข้าทำธุรกรรม
ทั้งนี้ ภายใต้สมมุติฐานที่ว่าหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่กำลังเสนอขายให้แก่ ผู้ถือหุ้นเดิมของ NPARK ได้มีการจองซื้อทั้งหมดเต็มจำนวน) ในราคาเสนอขายหุ้นละ 0.047 บาท และใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของ NPARK ซึ่งออกให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement)(“ใบสำคัญแสดงสิทธิฯ") ในอัตราส่วน 2 หุ้นสามัญเพิ่มทุนที่ออกให้แก่บริษัทฯ ต่อ 1 หน่วยของใบสำคัญแสดงสิทธิฯ โดยไม่คิดมูลค่า โดยใบสำคัญแสดงสิทธิฯ 1 หน่วย มีสิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ NPARK ได้ 1 หุ้น ในราคาใช้สิทธิที่ 0.047 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้ ใบสำคัญแสดงสิทธิฯ นี้ จะต้องออกให้แก่บริษัทฯ ก่อนการออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญที่จะเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของ NPARK ตามสัดส่วนการถือหุ้น ซึ่งออกและเสนอขายตามมติของที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของ NPARK ครั้งที่ 1/2557 เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2557 (“ใบสำคัญแสดงสิทธิ RO") และใบสำคัญแสดงสิทธิฯ นี้ จะไม่มีการจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยนอกเหนือจากเรื่องวันออกใบสำคัญแสดงสิทธิฯ ราคาการใช้สิทธิ และสถานะการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแล้ว ใบสำคัญแสดงสิทธิฯ นี้ จะมีเงื่อนไขและ ข้อกำหนดสิทธิเช่นเดียวกันกับใบสำคัญแสดงสิทธิ RO นอกจากนี้แล้ว บริษัทฯ อาจจะรับค่าตอบแทนจากการจำหน่ายหุ้นในบริษัทย่อยอีกส่วนหนึ่งเป็นเงินสด หากมีความเหมาะสม ซึ่งจะขึ้นอยู่กับการเจรจาตกลงกัน
ทั้งนี้ การตัดสินใจเข้าทำธุรกรรมดังกล่าวข้างต้นของบริษัทฯ ยังไม่แน่นอน ซึ่งการตัดสินใจเข้าทำธุรกรรมจะต้องได้รับมติอนุมัติอย่างเป็นทางการจากที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทฯ อีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ ภายหลังจากที่บริษัทฯ ได้เข้าทำการตรวจสอบวิเคราะห์สถานะของกิจการ (Due Diligence) ของ NPARK และบริษัทย่อยของ NPARK และการพิจารณารายละเอียดและเงื่อนไขของการเข้าทำธุรกรรม รวมทั้งราคาซื้อขายหุ้นในบจ. บีทีเอส แอสเสทส์ และบจ. ก้ามกุ้ง พร็อพเพอร์ตี้ ว่ามีความเหมาะสมและเป็นที่พึงพอใจแก่บริษัทฯ หรือไม่ ตลอดจนการคำนึงถึงผลสำเร็จของการจองซื้อหุ้นในการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของ NPARK ตามมติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของ NPARK ครั้งที่ 1/2557 เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2557 และเมื่อที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทฯ มีมติอนุมัติการเข้าทำธุรกรรมแล้ว บริษัทฯ จะแจ้งให้ทราบต่อไป
อย่างไรก็ตาม ขนาดรายการดังกล่าวจะยังไม่เข้าลักษณะเป็นรายการประเภทที่ 1 ตามประกาศว่าด้วยการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ จึงไม่ต้องขออนุมัติการเข้าทำรายการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ของบริษัทฯ (แล้วแต่กรณี) จากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ แต่อย่างใด นอกจากการได้รับมติอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทฯ ในการเข้าทำธุรกรรมแล้วความสำเร็จของการเข้าทำธุรกรรมยังอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่สำคัญ