CYBER แจงข้อมูลละเอียดยิบเพิ่มทุน PPลงทุนธุรกิจอสังหาฯ-พลังงานทางเลือก

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday October 14, 2014 09:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกวิน เฉลิมโรจน์ ประธานกรรมการ (รักษาการ) บมจ.ไซเบอร์แพลนเน็ต อินเตอร์แอคทีฟ (CYBER) ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการที่บริษัทเพิ่มทุนให้บุคคลในวงจำกัดในราคาต่ำ โดยจัดสรรให้กับนายอุปกิต ปาจรียางกูร จำนวน 1,670 ล้านหุ้น คิดเป็น 25.04% ของทุนชำระแล้วหลังการเพิ่มทุน ซึ่งนายอุปกิต เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท อันดามันเพาเวอร์ แอนด์ ยูทิลิตี้ จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจพลังงานไฟฟ้านั้น

นายอุปกิต เป็นผู้มีศักยภาพด้านการเงินและเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง เป็นบุคคลซึ่งมีความรู้ ความสามารถในทางธุรกิจแขนงต่าง ๆ เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจโรงแรม ซึ่งดำเนินกิจการภายใต้บริษัท อัลลัวร์ กรุ๊ป จำกัด มาแล้วมากกว่า 10 ปี ไม่รวมเฉพาะธุรกิจพลังงานที่กล่าวถึง อีกทั้งการตัดสินใจเข้าร่วมลงทุนของนายอุปกิต ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทย่อมแสดงให้เห็นว่านายอุปกิต มีความเชื่อว่าธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของบริษัทว่าจะสามารถขยายตัวและกลับมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น

อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจจะลงทุนเกี่ยวกับธุรกิจพลังงานทางเลือก เป็นเพียงแนวทางหนึ่งที่บริษัทพิจารณาในการสรรหาธุรกิจ เพื่อเสริมสร้างผลกำไรทางธุรกิจเท่านั้น โดยบริษัทยังคงเน้นการลงทุนในโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เป็นธุรกิจหลัก และมุ่งเน้นการพัฒนาธุรกิจหลักเดิมที่ประกอบอยู่อย่างเต็มความสามารถต่อไป การสรรหาธุรกิจใหม่ ๆ ที่มีผลตอบแทนสูง ๆ เป็นไปเพื่อเปิดโอกาสในการทำธุรกิจและสร้างผลกำไรให้แก่บริษัทเท่านั้น

หากผลการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการธุรกิจพลังงานทางเลือกมีความเป็นไปได้สูง และหากมีผู้ที่ต้องการจะเสนอขายธุรกิจพลังงานทางเลือก และหากคณะกรรมการบริษัทได้พิจารณาที่จะลงทุนในธุรกิจดังกล่าวรวมถึง ณ ช่วงเวลานั้น บริษัทมีแหล่งเงินที่เพียงพอในการจะลงทุน บริษัทจะเชิญผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจด้านนี้เข้ามาเพื่อให้คำปรึกษาและแนะนำ เนื่องจากธุรกิจดังกล่าวเป็นธุรกิจใหม่สำหรับบริษัท บริษัทอาจพิจารณาเชิญ นายอุปกิต ปาจรียางกูร ซึ่งเป็นผู้มีประสบการณ์ในธุรกิจด้านนี้ เข้ามาร่วมให้คำปรึกษา แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทยังไม่เคยเจรจาในประเด็นดังกล่าวนี้กับนายอุปกิตมาก่อน

ส่วนเหตุผลที่บริษัทเพิ่มทุนจำนวนมากและเป็นการเพิ่มทุนให้กับบุคคลในวงจำกัดเพื่อรองรับการลงทุนในโครงการพลังงานทางเลือกเป็นเงิน 2,275 ล้านบาท โดยที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเห็นว่าบริษัทเพิ่งแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการดังกล่าวเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2557 ทั้งที่แผนการใช้เงินเพิ่มทุนเพื่อลงทุนในโครงการพลังงานทางเลือกยังไม่มีความชัดเจน เนื่องจากเพิ่งแต่งตั้งคณะทำงานเท่านั้น ซึ่งยังไม่ได้ข้อสรุปในการลงทุนในโครงการดังกล่าวแต่อย่างใด

บริษัทขอเรียนชี้แจงว่า บริษัทมีเหตุผลหลัก คือ เป็นไปเพื่อการขยายฐานทุนของบริษัทให้เหมาะสมและเพียงพอ และเป็นการเตรียมความพร้อมของเงินทุนและบริษัทยังคงเน้นการลงทุนในโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เป็นธุรกิจหลัก จากการเพิ่มทุนให้กับบุคคลในวงจำกัดในครั้งนี้ บริษัทคาดว่าบริษัทจะได้รับเงินเพิ่มทุนประมาณ 2,775 ล้านบาท บริษัทจะใช้เงินเพิ่มทุนประมาณ 500 ล้านบาทไปใช้ในการซื้อที่ดินเปล่าบริเวณอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา โดยบริษัทจะใช้เงินประมาณ 50 ล้านบาทเพื่อวางมัดจำ ซึ่งเป็นเงินส่วนหนึ่งจากการระดมทุนในช่วงเดือนกันยายน 2557 ที่ผ่านมา (ในครั้งนั้น บริษัทระดมทุนได้ประมาณ 476 ล้านบาท เพื่อใช้ซื้อที่ดินบริเวณใกล้ โครงการปัจจุบันเพิ่ม จำนวนประมาณ 100-120 ล้านบาท และเพื่อใช้รับเหมาก่อสร้างบ้านพักอาศัยให้บุคคลที่สนใจบนที่ดินที่บริษัทพัฒนาและแบ่งขาย(โครงการเดิม) จำนวนประมาณ 80-100 ล้านบาท

ส่วนที่เหลือจำนวนประมาณ 256 ล้านบาทเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน) ซึ่งเป็นที่ดินแปลงใหม่ที่บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับบุคคลที่ไม่มี ความสัมพันธ์และไม่เกี่ยวโยงและคณะกรรมการ

บริษัทมีแผนเบื้องต้นที่จะพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมบนที่ดินแปลงดังกล่าว โดยบริษัทคาดว่าจะมีมูลค่าการก่อสร้างคอนโดมิเนียมมากกว่า 1,000 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจมีการปรับรูปแบบการพัฒนาเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดจากการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ดินซึ่งคาดว่าจะสามารถกำหนดแผนงานที่ชัดเจนได้ในต้นปี 2558 ดังนั้นหากบริษัทสามารถเรียกชำระค่าเพิ่มทุนจากนักลงทุนได้ครบถ้วน บริษัทจะมีแหล่งเงินทุนคงเหลือประมาณ 1,275 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายธุรกิจพลังงานทางเลือกตามมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 10/2557 ประชุมเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2557 จากแบบรายงานการเพิ่มทุน (F53-4)

บริษัท มีความเข้าใจในประเด็นซ้ำซ้อนกันของการใช้เงินเพิ่มทุนในจำนวนเงินของวัตถุประสงค์ดังกล่าว เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องและตรงประเด็น บริษัท จะยังคงนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน และเป็นเงินลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ โดยบริษัทคาดว่าจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนจากการเสนอขายบุคคลในวงจำกัดในครั้งนี้ จำนวนไม่เกิน 500 ล้าน บาทไปใช้ในการซื้อที่ดินเปล่า ซึ่งเป็นที่ดินแปลงใหม่ที่บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับบุคคลที่ไม่มีความสัมพันธ์และไม่เกี่ยวโยง

และการพัฒนาที่ดินที่กล่าวดังเป็นคอนโดมิเนียม เบื้องต้นบริษัทคาดว่าจะมีมูลค่าการก่อสร้างมากกว่า 1,000 ล่านบาท รวมประมาณ 1,500 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีกประมาณ 1,275 ล้านบาท บริษัทจะใช้ขยายฐานทุนของบริษัทให้เหมาะสมในการลงทุนในธุรกิจใหม่ด้านที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจพลังงานทางเลือก เช่น พลังงานชีวะมวล พลังงานชีวภาพ พลังงานไอน้ำ พลังงานความร้อน พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานทดแทน และสาธารณูปโภคอื่น ๆ เป็นต้น ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพ หรือการขยายกิจการที่จะเพิ่มรายได้ และสามารถสร้างกำไรแก่บริษัท บริษัท ไซเบอร์แพลนเน็ต อินเตอร์แอคทีฟ จำกัด(มหาชน)

ในส่วนการซื้อที่ดินเปล่า และพัฒนาที่ดินที่กล่าวดังเป็นคอนโดมิเนียม มีกรอบระยะเวลาดำเนินการเบื้องต้น ดังนี้ เตรียมวางเงินมัดจำเพื่อซื้อที่ดิน ประมาณ 50 ล้านบาท ในช่วงไตรมาส 4/57, จ่ายชำระค่าที่ดิน ประมาณ 500 ล้านบาท ประมาณไตรมาส 1/58, เริ่มทำการตลาดคอนโดมิเนียม ประมาณช่วงไตรมาส 2/58, ระยะเวลาการก่อสร้าง ประมาณ 2-2.5 ปี เงินลงทุนประมาณ 1,000 ล้านบาท แล้วเสร็จประมาณไตรมาส 1/60 และบริษัทคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ ประมาณไตรมาส 2/60

ในภาพรวมของการประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์นั้น จึงมีความจำเป็นที่ต้องมีเงินสนับสนุนอย่างเพียงพอและทันท่วงที เพื่อที่จะไปจับจองที่ดินสำหรับโครงการพัฒนาใหม่ๆ และหากบริษัทไม่มีแหล่งเงินอย่างเพียงพอ ความสามารถในการแข่งขันของบริษัทจะด้อยกว่าคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกัน และปัจจุบันจากผลการดำเนินงานของบริษัทที่เป็นขาดทุนสุทธิ ทำให้บริษัทไม่สามารถกู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินเป็นจำนวนมาก หรือแม้หากสถาบันการเงินให้กู้ยืมเงิน จะส่งผลให้บริษัทต้องแบกรับภาระดอกเบี้ยที่เกิดขึ้น ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อผลการดำเนินงานของบริษัท

สำหรับกรอบระยะเวลาการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการลงทุนพลังงานทางเลือกที่ชัดเจน เนื่องจากบริษัทเร่งเพิ่มทุนเพื่อนำเงินเพิ่มทุนจำนวน 2,275 ล้านบาท ไปใช้ในโครงการลงทุนดังกล่าว บริษัทขอเรียนชี้แจงว่า บริษัทยังคงดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นธุรกิจหลักของบริษัท การที่บริษัทเร่งเพิ่มทุนและเพิ่มทุนให้บุคคลในวงจำกัดนั้น มีสาเหตุหลัก คือ ในสภาวะการแข่งขันทางธุรกิจการที่บริษัทจะไปดำเนินการเจรจาใดๆ บริษัทต้องมีเงินทุนเพียงพอเพื่อสนับสนุนในการลงทุนนั้น ซึ่งการที่บริษัทมีแผนจะไปลงทุนในที่ดินและคอนโดมิเนียมซึ่งเป็นบริเวณที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว พักผ่อนและสถานที่พักอาศัย ยังคงเป็นความต้องการของประชาชนที่สนใจ เพื่อเป็นการได้เปรียบในเชิงธุรกิจ บริษัทจึงต้องเร่งเพิ่มทุนดังกล่าวและเพิ่มทุนให้กับบุคคลในวงจำกัดเท่านั้น

และในการเพิ่มทุนครั้งนี้ บริษัทยังคงเน้นในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมิได้เร่งเพิ่มทุนเพื่อลงทุนในธุรกิจพลังงานทางเลือก และจากจำนวนเงินเพิ่มทุน 2,275 ล้านบาท เมื่อนำเงินจากการใช้เงินเพิ่มทุนจากการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยจำนวนเงินประมาณ 1,500 ล้านบาท บริษัทจะยังคงมีเงินคงเหลือประมาณ 1,275 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมและจำเป็นสำหรับการแข่งขัน และหากบริษัทมีโอกาสเจอการลงทุนที่จะสามารถสร้างผลตอบแทนได้ เงินคงเหลือดังกล่าวจะทำให้บริษัทสามารถลงทุนได้ทันที ไม่เสียโอกาส

อย่างไรก็ตาม การพิจารณาและอนุมัติโครงการต่างๆ ในอนาคต ผู้บริหารของบริษัทจะต้องได้รับการพิจารณาอนุมัติจากคณะกรรมการบริษัทและที่ประชุมผู้ถือหุ้น (กรณีจำเป็น)

ในส่วนธุรกิจพลังงานทางเลือก บริษัทขอเรียนชี้แจงว่า ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการพลังงานทางเลือก ซึ่งธุรกิจพลังงานทางเลือกมีได้หลายประเภทที่จะสามารถพิจารณาได้ อีกทั้งการดำเนินการในการเพื่อลงทุนในกิจการพลังงานทางเลือกซึ่งเป็นประเภทกิจการที่มีความต้องการบริโภคเป็นอย่างมากในปัจจุบัน และเป็นธุรกิจที่ต้องใช้เวลาและเงินลงทุนระดับหนึ่ง ประกอบกับคณะกรรมการยังไม่ได้มีมติพิจารณาการลงทุนทั้งประเภทและกรอบระยะเวลาการลงทุน และบริษัท อีวาย คอร์ปอเรท เซอร์วิสเซส จำกัด เป็นที่ปรึกษาของคณะทำงานในการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการพลังงานของบริษัทในการดำเนินการ จะแล้วเสร็จวันที่ 7 พฤศจิกายน 2557 (อ้างถึง หนังสือที่ CPI 023-2557 เรื่อง แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 10/2557 และกำหนดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2557 (แก้ไข))

และตามที่บริษัทได้เปิดเผยข้อมูลว่าจะนำ เงินเพิ่มทุนในครั้งนี้ จำ นวน 500 ล้านบาท ไปลงทุนในโครงการอสังหาริมทรัพย์ โดยจะมีการซื้อที่ดินเพิ่มเติมและลงทุนในโครงการดังกล่าวมีมูลค่าการก่อสร้างมากกว่า 1,000 ล้านบาทนั้น ในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์การซื้อที่ดินเพื่อพัฒนา ที่ดินเป็นสินค้าเพื่อรอพัฒนาและขายต่อไป มิได้เป็นการได้มาซึ่งทรัพย์สิน แต่อย่างก็ตามหากการซื้อที่ดินดังกล่าวเป็นได้มาซึ่งทรัพย์สินหรือเป็นการซื้อมาจากบุคคลที่เกี่ยวโยงกัน บริษัทจะดำเนินการตามกฎระเบียบอย่างโปร่งใสและเคร่งครัด โดยมีรายละเอียดของที่ดินที่จะพัฒนาดังนี้

โครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ บริเวณอำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ตามที่บริษัทได้เปิดเผยไว้ คือบริษัทจะใช้เงินเพิ่มทุนประมาณ 500 ล้านบาทไปใช้ในการซื้อที่ดินเปล่า ซึ่งเป็นที่ดินแปลงใหม่ที่บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับบุคคลที่ไม่มีความสัมพันธ์และไม่เกี่ยวโยง ซึ่งบริษัทใช้เงินส่วนหนึ่งจากการระดมทุนในช่วงเดือนกันยายน 2557 ที่ผ่านมา เพื่อวางมัดจำและที่ดินแปลงใหม่นี้ บริษัทจะพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียมซึ่งเบื้องต้น บริษัทคาดว่าจะมีมูลค่าการก่อสร้างมากกว่า 1,000 ล้านบาท โครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวนั้น ทีมงานที่เกี่ยวกับโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ได้ทำการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ และได้นำเสนอให้คณะกรรมการบริษัทรับทราบผลการศึกษาดังกล่าวและได้รับมอบหมายให้เริ่มเจรจาเพื่อจัดหาที่ดินให้ได้ตามแผนงาน และเป็นการป้องกันเพื่อไม่ให้ราคาที่ดินมีการปรับเพิ่มขึ้นเกินกว่าแผนการที่วางไว้ เมื่อทีมงานสามารถเจรจาเพื่อรวบรวมที่ดินได้ตามแผนงาน ทีมงานจะนำเสนอคณะกรรมการบริษัทเพื่อพิจารณาลงทุนในโครงการดังกล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ