เมื่อคิดคำนวณขนาดรายการโดยส่วนเงินลงทุนจำนวน 850 ล้านบาท เมื่อเทียบกับทรัพย์สินรวมของบริษัทจำนวน 960.59 ล้านบาทแล้วไม่เกินกว่าร้อยละ 100 ทั้งนี้ไม่รวมที่ดินเปล่าที่บริษัทมีแผนที่จะพัฒนาต่อไปในอนาคต ซึ่งจะต้องนาเสนอขออนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทและ/หรือที่ประชุมผู้ถือหุ้นตามที่กฎหมายกาหนดต่อไป จึงสรุปได้ว่าการเข้าลงทุนใน SA ไม่เป็นการเข้าจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ทางอ้อม เนื่องจากขนาดรายการที่ต่ากว่าเกณฑ์
สำหรับประเด็นการโอนอำนาจการควบคุมไปยังเจ้าของทรัพย์สินเดิมนั้น ปัจจุบันบริษัทมีกรรมการที่ไม่ใช่กรรมการอิสระและกรรมการตรวจสอบ จำนวน 5 ท่าน ได้แก่ นายชำนิ จันทร์ฉาย, นายสิริวัฒน์ โตวชิรกุล, นายสมยศ นาคมั่น, นายสมยศ วงษ์ทองสาลี และนายพันธ์เทพ อาสนิททอง ซึ่งการเข้าดำรงตาแหน่งก็โดยการเชื้อเชิญจากประธานกรรมการ และได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัททุกครั้ง โดยเฉพาะนายสมยศ นาคมั่น และนายสมยศ วงษ์ทองสาลี ที่เข้าดำรงตำแหน่งก็โดยผ่านมติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ซึ่งเป็นเหตุการณ์ก่อนที่นายขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ จะเข้ามาถือหุ้นบริษัท อีกทั้งการเข้าลงทุนใน SA ครั้งนี้ไม่ทำให้ผู้ถือหุ้น และ กรรมการเดิมของ SA เข้ามาร่วมบริหารในบริษัท หรือมีผลในการควบคุมกิจการผ่านคณะกรรมการบริษัท จึงไม่มีการโอนอำนาจการควบคุมไปยังเจ้าของทรัพย์สินเดิม
ประเด็นการได้มาซึ่งสินทรัพย์เป็นผลให้ผู้ถือหุ้นเดิมมีสัดส่วนน้อยกว่าร้อยละ 50 ของทุนชeระแล้วหรือไม่นั้น คณะกรรมการบริษัทได้พิจารณาแล้วว่าการทำรายการได้มาในครั้งนี้ ไม่ได้ทำให้นายขจรศิษฐ์ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายหนึ่งใน SA จำนวน 30% เข้ามาถือหุ้นในบริษัทเกินกว่า 50% เนื่องจากปัจจุบันนายขจรศิษฐ์ ถือหุ้นในบริษัทอยู่แล้วเป็นจำนวน 60.50% รวมทั้งการได้มาในครั้งนี้ไม่มีการออกหุ้นของบริษัทจดทะเบียนให้เจ้าของสินทรัพย์เดิม
ทั้งนี้ การบริหารกิจการของ SA ภายหลังการได้มา บริษัทจะดำเนินการให้ตัวแทนกรรมการของบริษัทเข้าไปเป็นกรรมการบริหารโดยเบ็ดเสร็จใน SA อย่างไรก็ตามเพื่อให้การดำเนินธุรกิจของ SA เป็นไปอย่างต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพ บริษัทจึงจะให้นายขจรศิษฐ์ ซึ่งเป็นกรรมการของ SA เดิม ยังคงเป็นกรรมการใน SA อยู่เพียงผู้เดียว
MAX ระบุอีกว่า การเพิ่มทุนในคราวนี้สืบเนื่องจากบริษัทได้เพิ่มทุนเมื่อเดือน เมษายน 2557 และได้รับเงิน 900 ล้านบาท มีวัตถุประสงค์ชัดเจนในการที่จะใช้ในการดำเนินธุรกิจเหล็กอันเป็นธุรกิจหลัก โดยจะใช้ซื้อโรงงานผลิตเหล็ก รวมถึงสำรองไว้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการผลิตและเพื่อการค้าเหล็ก อีกทั้งได้มีแผนสำรองไว้ว่าหากมีปัญหาติดขัดจากการลงทุนซื้อทรัพย์สินดังกล่าวก็จะศึกษาหาช่องทางเพื่อลงทุนในธุรกิจอื่น ต่อมาในวันที่ 11 มิถุนายน 2557 คณะกรรมการบริษัทได้มีการประชุมเพื่อรับทราบผลจากการที่เจ้าของกรรมสิทธิในโรงงานเหล็กทั้งที่เป็นของสถาบันการเงินแห่งหนึ่งและของภาคเอกชนอีกแห่งหนึ่งมีท่าทีที่จะปฏิเสธในการขายโรงงานผลิตเหล็กให้แก่บริษัท
ดังนั้น ที่ประชุมได้มีมติมอบหมายให้ฝ่ายบริหารได้ศึกษาธุรกิจอื่น ทั้งนี้ได้มีคำแนะนำให้ฝ่ายบริหารพิจารณาศึกษาธุรกิจพลังงานที่อยู่ในความสนใจของนักลงทุน และคาดว่าน่าจะให้ผลตอบแทนจากการลงทุนที่น่าพอใจ ฝ่ายบริหารและที่ปรึกษาเข้าศึกษาและขอร่วมทุนกับผู้ถือหุ้นของบริษัทผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานชีวมวลคือแกลบและเศษไม้ พบว่าผลตอบแทนอยู่ในระดับ 15%-20% แต่เมื่อเจรจาราคาและเงื่อนไขแล้วไม่สามารถตกลงกันได้ คณะกรรมการบริษัทจึงได้มีมติขอให้ฝ่ายบริหารเข้าขอศึกษาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จากกิจการของนายขจรศิษฐ์ คือ SA เพื่อเป็นหนึ่งในทางเลือกที่จะขยายธุรกิจออกไป
จากนั้นฝ่ายบริหารพร้อมที่ปรึกษาได้เข้าศึกษาธุรกิจในกลุ่ม SA แล้วได้รายงานในการประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 5 กันยายน 2557 ว่าหากลงทุน 850 ล้านบาท บริษัทคาดว่าจะได้ผลตอบแทนที่ 24.97% ประกอบกับ SA มีศักยภาพด้านกำลังคน และบุคคลากรที่มีความชำนาญ หากได้รับการสนับสนุนทางด้านเงินทุน และการจัดซื้อวัสดุก่อสร้างที่เหมาะสมในการดำเนินการโครงการใหม่ๆ เพิ่มเติมจะช่วยเพิ่มผลตอบแทนการลงทุนได้อีกมาก คณะกรรมการจึงได้มีมติในการประชุมวันดังกล่าว มอบหมายให้ฝ่ายบริหารเจรจาขอซื้อหุ้นของ SA จากผู้ถือหุ้นเดิม พร้อมทั้งจัดหาเงินทุนเพิ่มเติมอีก 2,500 ล้านบาท เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับโครงการในอนาคต
ฝ่ายบริหารได้ติดต่อกับนักลงทุนประเภทสถาบันที่สนใจจะร่วมลงทุนกับบริษัทหลายราย เพื่อสอบถามความสนใจร่วมลงทุนกับบริษัท ในกรณีที่บริษัทจะขยายธุรกิจประเภทอสังหาริมทรัพย์ โดยขอให้ บล.แอพเพิล เวลธ์ เป็นผู้ประสานงาน ต่อมากองทุนได้แจ้งความประสงค์มายังบริษัทว่าสนใจอย่างยิ่งที่จะร่วมลงทุนกับบริษัทหากบริษัทมีการเพิ่มทุนเพื่อที่จะขยายการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยกำหนดวงเงินร่วมลงทุนประมาณ 100 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ที่ราคาหุ้นสามัญเพิ่มทุนไม่เกินกว่า 1.30 บาทต่อหุ้น ทั้งนี้ต้องการให้ดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายในสิ้นปี 2557 นี้ เนื่องจากกองทุนต้องมีการทบทวนแผนการและนโยบายการลงทุนทุก ๆสิ้นปี
ฝ่ายบริหารได้ขอเจรจากับกองทุนว่าหากมีการเพิ่มทุนในบริษัท เพื่อระดมทุนในวงเงินประมาณ 2,500 ลบ. ที่ราคา 1.30 บาทต่อหุ้น ขอให้จัดสิทธิในการซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ผู้ถือหุ้นเดิมก่อนในราคาที่เท่ากันกับกองทุนได้หรือไม่ และในเรื่องของกรอบเวลาขอให้บริษัทมีเวลาพิจารณาถึงไตรมาส 1 ปี 2558 ได้หรือไม่ กองทุนได้แจ้งแก่บริษัทว่ายอมรับถึงการจัดสิทธิให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมก่อน สำหรับเรื่องกรอบเวลาทางกองทุนสามารถขยายเวลาได้ภายในเดือนมกราคม 2558 เท่านั้น และมีเงื่อนไขว่าในสัดส่วนของผู้บริหาร และผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ถือหุ้นของบริษัทเกินร้อยละ 5 จะต้องสละสิทธิในการซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าว
อนึ่ง คณะกรรมการบริษัทได้มอบหมายให้นายชานิ จันทร์ฉาย รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทเป็นผู้เจรจาติดต่อเพื่อให้บริษัทเข้าลงทุนใน SA ทั้งนี้นายชานิ จันทร์ฉาย เป็นกรรมการ และผู้ถือหุ้นในบริษัทจานวน 100,020,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 0.50 ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว และไม่ได้เป็นกรรมการ หรือผู้ถือหุ้นใน SA แต่ประการใด
ส่วนสาเหตุที่กำหนดราคาซื้อขายหุ้น SA ที่หุ้นละ 100 บาท ตามราคาพาร์ ขณะที่มูลค่าตามบัญชี ณ 31 ธันวาคม 2556 มีมูลค่าเท่ากับ 27.75 บาทต่อหุ้น และภายหลังการเพิ่มทุนของ SA เป็น 850 ล้านบาท จะมีมูลค่าตามบัญชีเท่ากับ 82.99 บาทต่อหุ้น โดยที่ SA มีผลประกอบการปี 2556 ขาดทุนสุทธิ 70.36 ล้านบาท เนื่องจากเมื่อพิจารณาจากผลการศึกษาข้อมูลของที่ปรึกษา ซึ่งมีความชำนาญในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มีความเห็นว่าวิธีการที่เหมาะสมในการประเมินมูลค่า SA คือวิธีมูลค่าปัจจุบันองกระแสเงินสด (DCF) เนื่องจากวิธีดังกล่าวได้พิจารณาถึงศักยภาพในการประกอบธุรกิจในอนาคต ในกรณีที่บริษัทซื้อหุ้นที่ราคา 100 บาทต่อหุ้นนั้น คิดเป็นมูลค่าการลงทุน 850 ล้านบาทบริษัทคาดว่าอัตราผลตอบแทนอยู่ที่ประมาณ 25% - 30% ซึ่งการลงทุนดังกล่าวมีผลตอบแทนเป็นไปตามนโยบายการลงทุนของบริษัท
และ สาเหตุที่บริษัทกำหนดราคาขายหุ้นเพิ่มทุนให้ผู้ถือหุ้นเดิมที่ราคา 1.30 บาทซึ่งสูงกว่าราคาตลาดเฉลี่ย 7 วันทำการก่อนวันที่คณะกรรมการมีมติกำหนดราคาเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน (13 -21 ตุลาคม 2557) ซึ่งคานวณได้ เท่ากับ 1.08 บาท ขณะที่มูลค่าตามบัญชีของบริษัท ณ วันที่ 30 กันยายน 2557 เท่ากับ 0.051 บาทต่อหุ้น บริษัทระบุว่าเป็นราคาที่เท่ากับราคาที่กองทุนได้พิจารณาและแสดงความสนใจเข้าร่วมลงทุนกับบริษัท
อย่างไรก็ตาม บริษัทยบอมรับว่าไม่สามารถประเมินความสาเร็จของการระดมทุนจากผู้ถือหุ้นเดิมได้ เนื่องจากมีปัจจัยหลายประการที่มีผลต่อการตัดสินใจของผู้ถือหุ้น อาทิ ความพร้อมของเงินทุนของผู้ถือหุ้นเดิม ราคาตลาด ตลอดจนสถานะการเศรษฐกิจ และการเมือง ประกอบกับเงื่อนไขของกองทุนที่ฝ่ายบริหารได้มีการติดต่อไว้ตามที่ได้ชี้แจงแล้วข้างต้น กาหนดให้ฝ่ายบริหารและผู้ถือหุ้นรายใหญ่เดิมที่ถือหุ้นเกิน 5% จะต้องไม่ใช้สิทธิในการเพิ่มทุนครั้งนี้ ดังนั้น ในเรื่องของการประเมินความสำเร็จของการระดมทุนจากผู้ถือหุ้นเดิมนั้น บริษัทไม่สามารถประเมินได้ ทั้งนี้บริษัทได้รับการยืนยันจากฝ่ายบริหารและผู้ถือหุ้นรายใหญ่เดิมที่ถือหุ้นเกิน 5% ซึ่งประกอบด้วย นายชานิ จันทร์ฉาย, นายสิริวัฒน์ โตวชิรกุล, นายขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ และ นายอนุกูล บุญทิพย์ ว่าจะไม่ใช้สิทธิ