CBG มีทุนชำระแล้ว 1,000 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 850 ล้านหุ้นหุ้นสามัญเพิ่มทุน 150 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไป จำนวน 250 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 28 บาท เมื่อวันที่ 12 – 14 พฤศจิกายน 2557 คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 4,200 ล้านบาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
นายเสถียร เศรษฐสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. คาราบาวกรุ๊ป (CBG) เปิดเผยว่า บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้น IPO ไปชำระคืนเงินกู้สถาบันการเงิน เพื่อขยายกำลังการผลิตเครื่องดื่มโดยติดตั้งสายการผลิตความเร็วสูง Krones ซึ่งมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยจากประเทศเยอรมัน สร้างโรงงานผลิตขวดแก้วสีชา และลงทุนในที่ดิน อาคารเพื่อใช้เป็นอาคารสำนักงานใหญ่ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านเงินทุน รองรับการเติบโตทางธุรกิจในอนาคต เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจเครื่องดื่มบำรุงกำลังในประเทศไทย และกลุ่มประเทศ CLMV ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ เวียดนาม
หลัง IPO ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ CBG 3 ลำดับแรก ได้แก่ กลุ่มนายเสถียร เศรษฐสิทธิ์ ถือหุ้น 34.3% กลุ่มนางสาว ณัฐชไม ถนอมบูรณ์เจริญ ถือหุ้น 26.6 % และกลุ่มคุณยืนยง โอภากุล ถือหุ้น 14.2% การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO พิจารณาจากการสำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์ของผู้ลงทุนสถาบัน (book building) คิดเป็นอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E Ratio) ที่ 30.3 เท่า โดยคำนวณจากกำไรสุทธิในช่วง 4 ไตรมาสล่าสุด (ไตรมาส 4/2556 - ไตรมาส 3/2557) หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.93 บาท โดย P/E Ratio เฉลี่ยของบริษัทจดทะเบียนที่ดำเนินธุรกิจคล้ายคลึงกับบริษัทในช่วง 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม – 30 ตุลาคม 2557 เท่ากับ 27 เท่า
ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่า 40 % ของกำไรสุทธิจากงบการเงินเฉพาะกิจการ หลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และเงินสำรองตามที่กฎหมายกำหนด