อันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงแนวโน้มการเติบโตในระดับปานกลาง สำหรับธุรกิจเรือขนส่งสินค้าแห้งเทกองและธุรกิจให้บริการนอกชายฝั่งสำหรับอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ความสามารถในการแข่งขันที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจเรือขนส่งและธุรกิจให้บริษัทนอกชายฝั่ง รวมทั้งการที่บริษัทมีธุรกิจที่มีความหลากหลาย
"ในฐานะที่ TTA เป็นบริษัทเพื่อการลงทุนการได้เครดิตองค์กรในระดับ BBB+ จะส่งเสริมศักยภาพในการลงทุนของเราให้ดีมากขึ้น เพราะอันดับเรทติ้งที่ดี จะทำให้เรามีโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่มีต้นทุนทางการเงินหรืออัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง และสามารถเข้าถึงฐานนักลงทุนที่กว้างมากขึ้น ส่งผลให้เรามีต้นทุนและโครงสร้างทางการเงินที่แข็งแกร่ง ความสามารถในการระดมทุนที่ดีขึ้น พร้อมรองรับกับกลยุทธ์ของเราที่ต้องการสร้างธุรกิจปัจจุบันให้เติบโตอย่างยั่งยืน และขยายการลงทุนไปยังธุรกิจใหม่ๆ ที่มีแนวโน้มการเติบโตสูงและพร้อมให้ผลตอบแทนที่ดี"นายเฉลิมชัย กล่าว
ทั้งนี้ ผลประกอบการในปีนี้ถือเป็นเครื่องยืนยันถึงคำมั่นสัญญาของผมที่จะทำให้ TTA กลับมาเป็นบริษัทที่สร้างผลกำไรในระดับพันล้านให้กับผู้ถือหุ้นของเรา และในอนาคต เรายังมุ่งมั่นที่จะเป็นบริษัทเพื่อการลงทุนชั้นนำที่สามารถสร้างโอกาสและช่วงชิงจังหวะในการลงทุนได้อย่างทันท่วงที (Dynamic Blue ChipCompany)โดยเราตั้งเป้าว่าอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในธุรกิจปัจจุบันจะอยู่ที่ 15% และธุรกิจใหม่จะอยู่ที่ระดับ 25-30%
TTA เพิ่งประกาศผลประกอบการประจำปี 2557 โดยบริษัทฯ สามารถพลิกจากผลขาดทุน 5,119 ล้านบาทในปี 2556 มาเป็นกำไร 1,015 พันล้านบาทในปี 2557 โดยมีรายได้รวมเติบโตจากปีก่อน 16% มาอยู่ที่ระดับ 21,431 ล้านบาทจากผลประกอบการที่ดีขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยสัดส่วนรายได้ปัจจุบัน 47% มาจากเมอร์เมด มาริไทม์, 32% มาจากโทรีเซนชิปปิ้ง, 15% มาจากบาคองโค และส่วนที่เหลือมาจากธุรกิจอื่นๆ