"ตลาดหลักทรัพย์ mai ได้เตรียมความพร้อมและแจ้งให้ผู้ลงทุนทราบเรื่องการจัดกลุ่มอุตสาหกรรม รวมทั้งทำความเข้าใจกับบริษัทจดทะเบียน นักวิเคราะห์และผู้ใช้ข้อมูลถึงประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นจากการมีดัชนีราคากลุ่มอุตสาหกรรม mai"นายประพันธ์ กล่าว
สำหรับ 8 กลุ่มอุตสาหกรรมดังกล่าวประกอบด้วย กลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร (Agro & Food Industry) กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค (Consumer Products) กลุ่มธุรกิจการเงิน (Financials) กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม(Industrials) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง (Property & Construction) กลุ่มทรัพยากร (Resources)กลุ่มบริการ (Services) และกลุ่มเทคโนโลยี (Technology) ซึ่ง 8 กลุ่มอุตสาหกรรมนี้มีความหมายและนิยามเช่นเดียวกับที่ใช้จัด บจ.ใน SET
การเผยแพร่ข้อมูลกลุ่มอุตสาหกรรมดังกล่าวจะประกอบด้วย ดัชนีกลุ่มอุตสาหกรรมทั้ง 8 กลุ่ม โดยการคำนวณดัชนีจะใช้ข้อมูลของวันที่ 30 ธันวาคม 2557 เป็นวันฐาน และมีค่าดัชนีเริ่มต้นที่ 100 จุด นอกจากนี้จะคำนวนค่าสถิติสำคัญของแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม อาทิ อัตราส่วนราคาตลาดต่อกำไรสุทธิ (P/E) อัตราส่วนราคาตลาดต่อมูลค่าตามบัญชี (P/BV) อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) ปริมาณการซื้อขาย (Volume Trade) มูลค่าการซื้อขาย (Value Trade) เป็นต้น
ปัจจุบัน mai มี บจ. 109 บริษัท (ข้อมูล ณ วันที่ 12 ธันวาคม 2557) ดัชนี mai ปิดที่ระดับ 720.19 จุด มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมอยู่ที่ 386,646.57 ล้านบาท มูลค่าซื้อขายเฉลี่ย 3,811.87 ล้านบาทต่อวัน