ทั้งนี้ บริษัทคาดว่า การได้มาซึ่งสินทรัพย์ดังกล่าว จะสร้างความแข็งแกร่งให้บริษัทด้วยการขยายธุรกิจสู่ธุรกิจอื่น อาทิ ธุรกิจพัฒนานิคมอุตสาหกรรม ธุรกิจบริการด้านสาธารณูปโภคสาหรับนิคมอุตสาหกรรม และธุรกิจไฟฟ้า เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของบริษัท และลดความเสี่ยงของบริษัทจากการประกอบธุรกิจพัฒนาโรงงานและคลังสินค้าเพียงอย่างเดียว
เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ ธุรกิจพัฒนาโรงงานคลังสินค้าของบริษัทจากการได้รับ Synergy ในส่วนต่างๆ จากธุรกิจพัฒนานิคมอุตสาหกรรมของ บริษัท เหมราชฯ อาทิ ฐานลูกค้า หรือ การใช้พื้นที่ รวมถึงสาธารณูปโภคร่วมกัน สามารถสร้างผลตอบแทนมากขึ้น จากการนาประสบการณ์และความชานาญของบริษัทมาพัฒนาธุรกิจโรงงานและคลังสินค้าเพื่อให้เช่าของ HEMRAJ ให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น มีกระแสเงินสดที่มั่นคงเพิ่มมากขึ้นจากธุรกิจไฟฟ้า ซึ่งให้ผลตอบแทนในรูปของเงินปันผลที่สม่าเสมอ 9. แหล่งเงินทุน
แหล่งเงินทุนที่ใช้ในการเข้าทาคาเสนอซื้อครั้งนี้ ได้แก่ เงินเพิ่มทุนจากการออกและเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนแก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วน หรือ Rights Offering จำนวนประมาณ 8,800,000,000 ล้านบาท และ เงินส่วนที่เหลือจะใช้เงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน ภายในวงเงินกู้ยืมประมาณ 35,500 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทจะเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทไม่เกิน 468,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท จากเดิม 963,891,769 บาท เป็นจำนวนไม่เกิน 1,431,891,769 บาท เพื่อรองรับการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นตามสัดส่วนจานวนหุ้นที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายถืออยู่(Right Offering) ไม่เกิน 351,000,000 บาท ราคาเสนอขาย ซึ่งอยู่ในช่วงราคา 25 ถึง 27 บาทต่อหุ้น
และจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนเพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสาคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทที่ออกและเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมที่จองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท จำนวนไม่เกิน 117,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทที่ออกและเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมที่มีการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน
ทั้งนี้ ใบสาคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทเพื่อจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมที่มีการจองซื้อและชำระราคาค่าจองซื้อ โดยไม่คิดมูลค่า และมีราคาใช้สิทธิที่ราคา 35 บาท