การขายหุ้นครั้งนี้จะทำให้ UWC มีสภาพคล่องและกระแสเงินสดเพิ่มขึ้น สามารถนำเงินไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน และนำไปจ่ายชำระหนี้เงินกู้ยืมที่อยู่กับ CEN ได้ โดย ณ วันที่ 22 ธ.ค.57 UWC มียอดเงินกู้ยืมจาก CEN เท่ากับ 145 ล้านบาท คิดเป็นดอกเบี้ยจ่ายรวมเท่สกับ 3.63 ล้านบาท และเมื่อนำดอกเบี้ยจ่ายมาคำนวณขนาดรายการการรับความช่วยเหลือทางการเงินที่มีต่อ CEN จะได้เท่ากับ 0.57% ซึ่งรายการดังกล่าวได้ผ่านการอนุมัติจากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทก่อนเข้าทำรายการเรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ UWC ไม่ต้องรับรู้ผลขาดทุนที่อาจเกิดขั้นจากการดำเนินงานของ IMP ในอนาคต รวมถึง UWC ยังสามารถรับรู้รายได้และกำไรจากการขาย IMP ด้วย
นอกจากนี้คณะกรรมการ CEN ยังอนุมัติให้ UWC ลงทุน 22 ล้านบาท เข้าถือหุ้น 55% ในบริษัท ออสการ์ เซฟ เดอะเวิลดิ์ จำกัด (OSCAR) ซึ่งเป็นผู้ทำโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล โดยคาดว่าจะดำเนินการได้ภายในไตรมาส 1/58
ทั้งนี้ มองว่าเป็นกิจการที่มีศักยภาพการเติบโตในอนาคต และมีอัตราผลตอบแทนที่น่าลงทุน อีกทั้งได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐผ่านการอุดหนุนส่วนเพิ่มราคาในการรับซื้อไฟฟ้า(Adder) โดยโครงการ OSCAR มีกำลังการผลิต 9.9 เมกะวัตต์ และได้ลงนามสัญญาขายไฟฟ้าให้แก่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) จำนวน 8.8 เมกะวัตต์ ซึ่งจะเริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบภายในวันที่ 30 พ.ย.58 โดยปัจจุบันโครงการอยู่ระหว่างก่อสร้าง คาดว่าจะก่อสร้างและผลิตไฟฟ้าเพื่อส่งมอบไฟฟ้าให้กฟภ.ตามกำหนด
ขณะเดียวกันภายในปีนี้ UWC จะต้องใช้เงินเพิ่มทุนใน OSCAR และเงินทุนที่ใช้ในการพัฒนาโครงการของ OSCAR อีกจำนวน 390.50 ล้านบาทจนสามารถผลิตไฟฟ้าขายให้กับกฟภ.ได้
ทั้งนี้ การลงทุนใน OSCAR คาดว่าจะสร้างผลตอบแทนให้แก่ UWC ในอัตราผลตอบแทนไม่ต่ำกว่า 6% ซึ่งจะส่งผลให้ UWC มีรายได้และกำไรเพิ่มขึ้นจากผลตอบแทนในรูปเงินปันผล โดย UWC มีเป้าหมายลงทุนระยะยาว รวมถึงยังเป็นการขยายขอบเขตงานในกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจเดิมของ UWC เพื่อกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจให้มีความหลากหลายและครอบคลุมในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องมากขึ้น สำหรับแหล่งเงินทุนในการซื้อหุ้นจะมาจากเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทและเงินเพิ่มทุนของ UWC