นายโนริอากิ โกโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BAYกล่าวว่า ได้ตั้งเป้าการขยายสินเชื่อครอบคลุมในทุกกลุ่มธุรกิจและสูงกว่าการเติบโตของเศรษฐกิจโดยรวม ภายใต้การคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวที่ 4.3%
"ปี 2558 นี้นับเป็นปีที่เศรษฐกิจมีแนวโน้มที่ดีขึ้น นำมาซึ่งโอกาสทางธุรกิจมากมาย ความสำเร็จในการควบรวมกิจการของธนาคารแห่งโตเกียว- มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ จำกัด (BTMU) สาขากรุงเทพฯ เข้ากับธนาคารเมื่อต้นเดือนม.ค.ที่ผ่านมาจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจของธนาคาร ขณะเดียวกันเราคาดว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปีนี้จะเอื้อและสนับสนุนต่อกิจกรรมทางธุรกิจต่างๆ อย่างไรก็ตาม ด้วยปัจจัยความไม่แน่นอนทั้งภายนอกและภายในประเทศ กรุงศรีจะยังคงให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างรอบคอบระมัดระวัง” นายโกโตะ กล่าว
สำหรับในปี 57 ที่ผ่านมา BAY มีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 14.3 พันล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโต 19.5% หรือปรับเพิ่มขึ้น 2.3 พันล้านบาทจากปี 2556
ขณะที่ ธนาคารมีเงินให้สินเชื่อรวมเพิ่มขึ้นเป็น 1,012,761 ล้านบาท โดยเป็นการเพิ่มขึ้นจำนวน 69,259 ล้านบาท คิดเป็น 7.3% จากปีก่อน โดยการเติบโตของเงินให้สินเชื่อครอบคลุมในทุกกลุ่มธุรกิจ โดยสินเชื่อลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่เติบโต 9.5% ขณะที่สินเชื่อลูกค้าธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และสินเชื่อเพื่อรายย่อยเพิ่มขึ้น 6.9% และ 6.3% ตามลำดับ
ด้านเงินรับฝาก 837.6 พันล้านบาท และสินทรัพย์รวม 1.2 ล้านล้านบาท ขณะที่เงินกองทุนของธนาคารยังคงแข็งแกร่งอยู่ที่ 132.4 พันล้านบาท หรือเทียบเท่า 14.7% ของสินทรัพย์เสี่ยง โดยเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 คิดเป็น 11.0%
"แม้ว่าต้องเผชิญกับความท้าทายในช่วงครึ่งแรกของปี 2557 การบริหารพอร์ตสินเชื่อด้วยความรอบคอบระมัดระวังของธนาคารได้ช่วยรักษาคุณภาพของสินทรัพย์ไม่ให้ปรับลดลง จะเห็นได้จากอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพสำหรับปี 2557 ยังคงอยู่ในระดับที่น่าพอใจที่ 2.79% ของเงินให้สินเชื่อรวม... และยอดเงินให้สินเชื่อเติบโตขึ้นเป็นกว่า 1 ล้านล้านบาทเป็นครั้งแรก สะท้อนความสำเร็จของธนาคารในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อตอบสนองความต้องการทางการเงินของลูกค้าในทุกกลุ่ม"