ทั้งนี้ หากการเพิ่มทุนดังกล่าวไม่ได้เม็ดเงินตามจำนวนที่คาดไว้หรือล่าช้าออกไปอาจจะส่งผลกระทบต่อโครงการของบริษัท แผนการดำเนินงานและฐานะทางการเงินของบริษัท เพราะการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทในครั้งนี้ เพื่อนำเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนดังกล่าวไปชำระคืนหนี้เงินก้ในบางส่วนหรือทั้งหมดที่จะครบกำหนดในปี 58 และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนทั่วไปของบริษัท จำนวน300 ล้านบาท โดยจะชำระภายในปี 58
รวมทั้งใช้เป็นเงินลงทุนเพื่อพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ทางบริษัทได้มีการลงทุนทั้งในบริษัท และผ่านบริษัทย่อย (บริษัท เอเซียพัฒนาแลนด์ จำกัด ซึ่งบริษัทถือหุ้นอยู 100%) จำนวน 1,000 ล้านบาท ภายใน 12 เดือน นับจากวันที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติการเพิ่มทุนครั้งนี้ โดยเงินที่ได้รับจะนำไปพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมที่จังหวัดนนทบุรี ชื่อโครงการบีลีฟ(เฟส2) ซึ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมขนาด 8 ชั้น จำนวน 5 อาคาร ทั้งหมด 700 ยูนิต
และเพื่อใช้เป็นเงินลงทุนหรือร่วมทุนในโครงการที่เกี่ยวข้องกับการจัดการสิ่งแวดล้อมพลังงานขยะหรือพลังงานทางเลือกที่มีศักยภาพและโอกาสเติบโต และมีแนวโน้มที่จะได้รับผลตอบแทนที่สูง ซึ่งสามารถสร้างรายได้และเพิ่มผลกำไรให้แก่บริษัทได้ในอนาคตจำนวน 1,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะต้องเริ่มใช้เงินลงทุนภายใน 12 เดือน
อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าวยังอยู่ระหว่างการเจรจาและยังไม่ได้ข้อสรุป ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์สูงสุดในทางธุรกิจของบริษัท ทางบริษัทจึงขอสงวนสิทธิในการเปิดเผยข้อมูลรายละเอียดต่างๆ จนกว่าการเจรจาจะดำเนินการแล้วเสร็จ ซึ่งขณะนี้คณะผู้บริหารกำลังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการและศึกษาดูงานที่ประเทศญี่ปุ่น ทั้งนี้ หากโครงการดังกล่าวมีความชัดเจนแล้วจะแจ้งให้ทราบต่อไป
อนึ่ง หากทางบริษัทจะเข้าไปทำลงนามหรือดำเนินการลงทุนในโครงการดังกล่าว ทางบริษัทจะแจ้งให้ผู้ถือหุ้นทราบและขออนุมัติต่อไป
ทั้งนี้ บริษัทได้มีการว่าจ้างบล.ยูโอบีเคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาในการให้คำแนะนำบริษัทและจัดเตรียมแผนการดำเนินงานและขั้นตอนเกี่ยวกับการออกหุ้นเพิ่มทุน และช่วยเหลือบริษัทในการจัดทำเอกสารต่างๆที่จะต้องส่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ กลุ่มนักลงทุนที่เข้ามาใหม่จำนวน 7 รายจะไม่มีส่วนร่วมใดๆ ในการบริหารบริษัทและจะไม่กระทบต่อโครงสร้างการบริหารเดิม