ตลท.รับหุ้น S11 เริ่มซื้อขายในหมวดเงินทุนและหลักทรัพย์ 25 ก.พ.นี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday February 24, 2015 13:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชนิตร ชาญชัยณรงค์ รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า บมจ. เอส 11 กรุ๊ป (S11) จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน ตลท. ในกลุ่มธุรกิจการเงิน หมวดเงินทุนและหลักทรัพย์ ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2558 โดย S11 ประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ครอบคลุมพื้นที่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้งจังหวัดชลบุรี พระนครศรีอยุธยา ฉะเชิงเทรา ระยอง และจันทบุรี โดยเน้นบริการให้สินเชื่อรถจักรยานยนต์ใหม่ที่มีความนิยมในตลาด ได้แก่ ยี่ห้อฮอนด้า ยามาฮ่า ซูซูกิ และคาวาซากิ แก่บุคคลธรรมดาเป็นหลัก ปัจจุบันบริษัทมีเครือข่ายพันธมิตรจำนวน 139 สาขา

S11 มีทุนชำระแล้ว 613 ล้านบาท มีมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 533 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 80 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนทั้งจำนวนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) เมื่อวันที่ 11 – 13 กุมภาพันธ์ 2558 ในราคาหุ้นละ 5.30 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 424 ล้านบาท โดยมี บริษัท ทรีนีตี้ แอ๊ดไวซอรี่ 2001 จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนิตี้ จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

นายสุรศักดิ์ เข็มทองคำ กรรมการผู้จัดการ S11 เปิดเผยว่า รู้สึกเป็นเกียรติและยินดีที่ได้เข้าจดทะเบียนใน ตลท. โดยจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านเงินทุนให้กับบริษัท และด้วยทีมผู้บริหารที่มีความรู้ ความเข้าใจ และมีประสบการณ์ในธุรกิจนี้มากว่า 20 ปี จะสร้างโอกาสในการขยายส่วนแบ่งการตลาดเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต

หลัง IPO ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ S11 3 ลำดับแรก ได้แก่ กลุ่มคุณสามารถ จิระดำรง ถือหุ้น 30.01% กลุ่มคุณริชาร์ด วี เคง กว๊อก ถือหุ้น 15.82% และกลุ่มคุณศิรวัตร หวั่งหลี ถือหุ้น 9.96% ทั้งนี้ การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้นที่ (P/E ratio) 20.38 เท่า โดยคำนวณจากกำไรสุทธิช่วง 4 ไตรมาสล่าสุด (ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2556 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2557) หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.26 บาทต่อหุ้น

ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้และเงินสำรองต่างๆ ตามกฎหมายของงบการเงินบริษัท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ