CPN แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมบริษัท มีมติให้นำเสนอขออนุมัติการลงทุนในทรัพย์สินบางส่วนของโครงการเซ็นทรัลเฟสติวัล ภูเก็ต 1 ต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2558 ในวันที่ 24 เม.ย.นี้ โดยทรัพย์สินที่จะเข้าลงทุน ประกอบด้วย การเช่าช่วงที่ดินที่เป็นที่ตั้งของโครงการเซ็นทรัลเฟสติวัล ภูเก็ต 1 บางส่วนจาก CDS โดยมีเนื้อที่รวมประมาณ 25 ไร่ 36.8 ตารางวา เป็นเวลาประมาณ 41 ปี โดยการเข้าทำรายการเช่าช่วงที่ดินรายการนี้จำนวนรวม 672 ล้านบาท
ประกอบด้วยค่าตอบแทนสิทธิการเช่า 667 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าปัจจุบันโดยใช้ Discount Rate ที 12% เท่ากับ 487 ล้านบาท และค่าเช่ารายปีจ่ายปีละครั้งตลอดเวลาการเช่า รวมจำนวนเงินทั้งสิ้น 2,769 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าปัจจุบันโดยใช้ Discount Rate ที 12% เท่ากับ 147 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมอื่นๆที่เกี่ยวข้องราว 38 ล้านบาท
การเช่าอาคารศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล ภูเก็ต 1 บางส่วน ไม่รวมพื่นที่ส่วนที่เป็นห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล โดยจะรับโอนกรรมสิทธิ์งานระบบ และการรับโอนกรรมสิทธิ์อุปกรณ์และเฟอร์นิเจอร์ที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย เช่าอาคารศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล ภูเก็ต 1 ซึ่งเป็นอาคารศูนย์การค้าจำนวน 4 ชั้นบวกชั้นใต้ดิน 2 ชั้น บางส่วนจาก CDS โดยพื้นที่ที่ CPN จะเช่าจาก CDS มีพื้นที่ใช้สอยและพื้นที่จอดรถรวมประมาณ 106,391 ตารางเมตร เป็นเวลา 41 ปี ,รับโอนกรรมสิทธิ์งานระบบที่เกี่ยวข้อง และอุปกรณ์และเฟอร์นิเจอร์ ของอาคารศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล ภูเก็ต 1 ในส่วนที่บริษัทจะเข้าลงทุนจาก CDS ซึ่งคิดเป็นมูลค่ารวม 5,692 ล้านบาท
CPN ระบุว่าการเข้าลงทุนดังกล่าว จะเป็นการขยายธุรกิจศูนย์การค้าตามแผนธุรกิจในระยะยาว และทำให้รายได้ในเชิงพาณิชย์ขยายตัวขึ้น รวมถึงเป็นการลงทุนในโครงการที่เปิดดำเนินการแล้ว และมีทำเลที่ตั้งดี รวมทั้งมีศักยภาพในเชิงพาณิชย์ มีความเสี่ยงต่ำกว่าการลงทุนพัฒนาโครงการใหม่ ตลอดจนเป็นการประโยชน์จากผลผนึกทางธุรกิจ ในด้านการตลาด การเงิน ที่เกิดจากการบริหารและดำเนินงานทรัพย์สินบางส่วนของโครงการเซ็นทรัลเฟสติวัล ภูเก็ต 1 และศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล ภูเก็ต 2 ร่าวมกันภายใต้ CPN เป็นต้น
สำหรับแหล่งเงินที่จะใช้ในการลงทุนครั้งนี้รวม 6.36 พันล้านบาท จะมาจากเงินทุนหมุนเวียนจากการดำเนินธุรกิจของบริษัทในอนาคต หรือเงินกู้ยืมจากธุนาคารหรือการออกหุ้นกู้
นอกจากนี้คณะกรรมการบริษัท ยังอนุมัติการจ่ายเงินปันผลจากการดำเนินงานในปี 57 ในอัตราหุ้นละ 0.65 บาท โดยกำหนดรายรายชื่อผู้ถือหุ้นเพื่อสิทธิ ในการรับเงินปันผลในวันที 7 พ.ค. และให้รวบรวมรายชื่อตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ โดยวิธี ปิดสมุดทะเบียนในวันที 8 พ.ค. ซึ่งจะจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นในวันที 20 พ.ค.