ซึ่งความคืบหน้าการสอบทานการควบคุมภายในของ WCIG เป็นดังนี้ คณะกรรมการตรวจสอบและคณะกรรมการบริษัทได้ พิจารณาสอบทานรายงานความคืบหน้าการดำเนินการตามนโยบายการปรับปรุงการควบคุมภายในของ WCIG เกี่ยวกับการยกระดับมาตรฐานการบริหาร การจัดการและการควบคุมภายในของ WCIG ให้มีความทันสมัยมีประสิทธิภาพ
โดย WCIG มีการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบและบริหารความเสี่ยง ครั้งที่ 2/2558 เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2558 เพื่อพิจารณาประวัติ คุณสมบัติ และประสบการณ์ การทำงานของบริษัทภายนอก โดยฝ่ายบริหารได้นำเสนอบริษัทภายนอกที่มีคุณสมบัติทำหน้าที่ตรวจสอบภายในจำนวน 3 ราย ซึ่งคณะกรรมการตรวจสอบและบริหารความเสี่ยงเห็นควรให้คัดเลือกบริษัทภายนอกเพียง 1 ราย เป็นผู้ตรวจสอบภายในของ WCIG และเสนอให้บริษัทภายนอกจัดทำแผนการดำเนินงานการตรวจสอบพร้อมรายละเอียดค่าใช้จ่ายมานำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการตรวจสอบและบริหารความเสี่ยงเพื่อพิจารณาอีกครั้ง
ต่อมาเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2558 คณะกรรมการตรวจสอบและบริหารความเสี่ยงของ WCIG มีการประชุมครั้งที่ 3/2558 เพื่อพิจารณาแผนการดำเนินงานจากบริษัทภายนอกซึ่งเป็นเรื่องสืบเนื่องอีกครั้ง โดยคณะกรรมการตรวจสอบและบริหาร ความเสี่ยงพิจารณาแล้วเห็นชอบคัดเลือกประวัติคุณสมบัติและประสบการณ์การทำงานของ บริษัท พีแอนด์แอล อินเทอร์นอล ออดิท โดยเสนอให้ฝ่ายบริหารดำเนินการนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเพื่อพิจารณาแต่งตั้งเป็นผู้ตรวจสอบภายในของ WCIG ต่อไป ซึ่งจะมีการประชุมคณะกรรมการบริษัทเพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าวในวันที่ 17 มีนาคม 2558
อย่างไรก็ตาม เมื่อคณะกรรมการบริษัทมีมติแต่งตั้งบริษัทภายนอกเป็นผู้ตรวจสอบภายในแล้ว ฝ่ายบริหารของ WCIG จะเร่งลงนามสัญญาจ้างและเร่งให้ผู้ตรวจตรวจสอบภายใน เริ่มดำเนินการตรวจสอบภายในของ WCIG ตั้งแต่เดือนเมษายน 2558
นอกจากนี้ บริษัทและ WCIG มีนโยบายพิจารณาจัดตั้งสำนักตรวจสอบภายในขึ้นตามโครงสร้างองค์กรใหม่อีกหน่วยงาน หนึ่งเพื่อร่วมกันวางแผนการปฏิบัติงานให้ WCIG มีระบบการควบคุมภายในที่มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานการควบคุมภายในของ บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
สำหรับความคืบหน้าในการขจัดความขัดแย้งทางผลประโยชน์ระหว่างบริษัทกับ บริษัท อี ฟอร์ แอล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (EFORL INTER) ปัจจุบันรายการระหว่างกันระหว่างบริษัทกับ EFORL INTER เป็นรายการที่ไม่มีนัยสำคัญแต่อย่างใด รายการระหว่างกันดังกล่าวเกิดจาก 2 กรณี คือ
กรณีบริษัทต้องใช้บริการด้านโลจิสติกส์กับ EFORL INTER เพื่อนำเข้าสินค้าที่บริษัทได้รับการแต่งตั้งเป็นตัวแทน จำหน่ายแล้ว แต่ยังอยู่ระหว่างการขอใบอนุญาต (อ.ย.) รายการระหว่างกันดังกล่าวมีประมาณ 15 % ของจำนวนสินค้าทั้งหมดที่ บริษัทเป็นตัวแทนจำหน่าย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอุปกรณ์เสริมของสินค้าเท่านั้น โดยคาดว่ารายการดังกล่าวจะหมดไปภายในปี 2558
และกรณีที่ EFORL INTER ยังคงมีภาระผูกพันกับลูกค้าตามสัญญาเรื่องการส่งมอบสินค้าจึงจำเป็นต้องซื้อสินค้าจากบริษัทเพื่อนำส่งมอบให้ลูกค้า ซึ่งรายการดังกล่าวคณะกรรมการบริษัทและคณะกรรมการตรวจสอบกำหนดนโยบายให้บริษัทพิจารณา EFORL INTER เป็นเสมือนคู่ค้าปกติและกำหนดราคาขายตามราคาตลาดซึ่งมีกำไรไม่เกิน 10% โดยคาดว่ารายการดังกล่าวจะหมดไปภายในปี 2558