IEC แจ้งว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้ อนุมัติให้เข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพดังกล่าว ผ่านการเข้าซื้อหุ้นทั้ง 100% ใน TE จากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม ในราคาหุ้นละ 100 บาท คิดเป็นมูลค่าหุ้นทั้งสิ้น 125 ล้านบาท ทั้งนี้ ที่ประชุมเห็นชอบให้เพิ่มทุนใน TE ในวงเงินจำนวน 275 ล้านบาทภายหลังจากที่รับโอนหุ้นทั้งหมด 100% แล้ว เพื่อใช้สำหรับจัดซื้อเครื่องจักรและก่อสร้างโรงผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพต่อไป โดยการเข้ารายการซื้อหุ้นจะส่งผลให้ TE มีสถานะเป็นบริษัทย่อยของบริษัท
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าการจะเข้าทำรายการซื้อหุ้น TE แบบมีเงื่อนไขบังคับก่อนภายในวันที่ 30 เม.ย.โดยจะชำระส่วนที่ 1 จำนวน 40 ล้านบาท ภายใน 7 วันนับจากวันทำสัญญาซื้อขายหุ้น โดยมีเงื่อนไขให้บริษัทเรียกเงินค่าหุ้นที่ชำระแล้วคืนได้ หาก TE ไม่สามารถได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน(รง.4) และสัญญาซื้อขายไฟฟ้า(PPA) จากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) และกำหนดห้ามไม่ให้ TE ก่อภาระผูกพันบนทรัพย์สินที่มีอยู่ในปัจจุบัน หรือจะมีขั้นในอนาคต ซึ่งผู้ขายต้องดำเนินการให้ TE ทำการทดสอบการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพให้ได้ผลเป็นที่พอใจของบริษัท
สำหรับการชำระส่วนที่ 2 จำนวน 85 ล้านบาท เพื่อจ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นของ TE แต่ละรายตามสัดส่วนการถือหุ้น ซึ่งผู้ถือหุ้นแต่ละรายมีหน้าที่ต้องโอนหุ้นในส่วนที่ถืออยู่ให้แก่บริษัทโดยทันที ภายใต้เงื่อนไขว่า TE จะต้องได้ทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ กฟภ.และได้รับใบอนุญาตรง.4 แล้ว รวมถึงต้องให้ TE ทำการทดสอบการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพให้ได้ผลเป็นที่พอใจด้วย โดยเงินลงทุนที่จะใช้ในการซื้อกิจการครั้งนี้จะมาจากเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท
TE เป็นผู้ผลิตไฟฟ้าผ่านโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพใน จ.กำแพงเพชร โดยใช้กากน้ำตาลเป็นวัตถุดิบตั้งต้น และยังสามารถรองรับวัตถุชีวภาพอื่นๆได้อีก โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการยื่นขอทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจำนวน 6 เมกะวัตต์ กับกฟภ. หากได้รับอนุญาตแล้ว TE จะมีรายได้จากการขายไฟฟ้าตามอัตรา Feed-in-Tariff(FiT) มีระยะเวลาสนับสนุน 20 ปี ในอัตรา 5.34 บาท/หน่วย และมีส่วนเพิ่มพิเศษอีกจำนวน 0.50 บาท/หน่วย เป็นเวลา 8 ปี ทั้งนี้ หากTE จำหน่ายไฟฟ้าให้กับกฟภ.ภายหลังจากปี 60 แล้วอัตรา FiT จะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตามอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน โดยโครงการนี้จะเริ่มดำเนินงานเชิงพาณิชย์ภายในเดือนธ.ค.58
IEC ยังระบุเพิ่มเติมว่า คณะกรรมการบริษัทยังอนุมัติการขยายระยะเวลาการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับบุคคลในวงจำกัด(PP) ออกไปอีก 12 เดือน นับจากวันที่ครบกำหนดเดิมในวันที่ 22 พ.ค.58 พร้อมลดระยะเวลา Silent Period เหลือ 3 เดือนจากเดิม 6 เดือน โดยเตรียมเสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2558 พิจารณาอนุมัติต่อไป
ก่อนหน้านี้ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 57 ได้มีมติให้จัดสรรและเสนอขายหุ้น PP จำนวน 4 หมื่นล้านหุ้น เสนอขาย PP แต่เนื่องจากปัจจุบันใกล้จะครบกำหนดเวลาเสนอขายหุ้น PP ที่มีกำหนดระยะเวลา 1 ปี แต่ปรากฎว่ามีหุ้นเพิ่มทุนใหม่อีก 2.4 หมื่นล้านหุ้น ที่ยังจำหน่ายไม่ได้เหลืออยู่อีก จึงเสนอให้ขยายระยะเวลาจัดสรรหุ้น PP ออกไปอีก 12 เดือน
นอกจากนี้คณะกรรมการบริษัท ยังอนุมัติขายสิทธิการเช่าพื้นที่ shop ในห้างสรรพสินค้า จำนวน 3 แห่ง คิดเป็นมูลค่ารวม 26.17 ล้านบาท ซึ่งจะสามารถแก้ไขปัญหาผลการดำเนินงานของธุรกิจและตัดภาระความเสี่ยงในอนาคต โดยจะนำเงินที่ได้จากการขายสินทรัพย์ไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจปกติของบริษัทต่อไป
สำหรับการขายสิทธิการเช้าพื้นที่ shop ในห้างสรรพสินค้าดังกล่าว แบ่งเป็น การขายสิทธิการเช่าพื้นที่ shop ที่เดอะมอลล์ สาขาโคราช ให้กับบริษัท เทวินทร์ ทรัพย์สิน จำกัด มูลค่ 10.17 ล้านบาท ซึ่งจะมีการชำระทั้งจำนวนภายในเดือน เม.ย.58 และการขายสิทธิการเช่าพื้นที่ shop ที่เซ็นทรัลพลาซา สาขาบางนา และเซ็นทรัลพลาซา สาขาพระราม 3 ให้กับบริษัท บางกอก เทเลคอม 999 จำกัด มูลค่ารวม 16 ล้านบาท ซึ่งจะทอยชำระ 8 งวด ตั้งแต่เดือนพ.ค.-ธ.ค.58