โดยอ้างว่าบริษัทเรียกเก็บเงินเกินไปจำนวน 89.65 ล้านบาท ซึ่งขอให้คืนเงินดังกล่าวพร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี นับตั้งแต่วันที่ชำระเงินให้ตามสัญญาจนถึงวันฟ้องคดี เป็นเงิน 22.9 ล้านบาท รวมเป็นทุนทรัพย์ในคดีทั้งสิ้น 112.55 ล้านบาท และดอกเบี้ยหลังฟ้องอีก 7.5% ของต้นเงินจนกว่าจะชำระเสร็จสิ้น
อนึ่ง INOX และ MCD มีนายเฉลิมชัย มหากิจศิริ เป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นร่วมกัน โดยทั้งสองบริษัทตกลงราคาซื้อขายที่ดินและทรัพย์สินโครงการดังกล่าวรวมมูลค่า 1.26 พันล้านบาท ซึ่งไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และภายหลังการทำสัญญา MCD ก็ได้ชำระเงินให้บริษัทครบถ้วน และบริษัทได้โอนที่ดินและทรัพย์สินทั้งหมดตามสัญญาให้แก่ MCD เรียบร้อยแล้วเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ในคดีนี้ MCD แจ้งว่าจากการได้ตรวจสอบงบการเงินของบริษัทในภายหลัง พบว่าราคาซื้อขายที่ดินและทรัพย์สินที่ไม่ใช่ทรัพย์สินหลัก โครงการสนามกอล์ฟที่ได้ชำระเงินไปตามสัญญาเมื่อเดือนก.ย.54 นั้น บริษัทคำนวณราคาไม่ถูกต้องตรงตามมติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น โดยแม้ว่าส่วนเงินลงทุนและค่าใช้จ่ายตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.54 ที่ต้องคิดราคา 100% นั้นมีมูลค่า 157.12 ล้านบาทถูกต้องแล้ว แต่ที่ดินและทรัพย์สินที่มีอยู่ก่อนปี 53 ของบริษัทที่ต้องจำหน่ายในราคา 95% ของมูลค่าทางบัญชีแท้จริงแล้ว จะต้องเป็นเงินเพียง 1.01 พันล้านบาทเท่านั้น MCD จึงได้ชำระเงินไปเกิน 89.65 ล้านบาท เป็นเหตุให้ต้องยื่นฟ้องบริษัทเป็นคดีดังกล่าว
สำหรับแนวทางการดำเนินงานของบริษัทนั้น บริษัทได้รับสำเนาคำฟ้องโดยวิธีปิดหมายเมื่อวันที่ 7 มี.ค. และจะครบกำหนดยื่นคำให้การในวันที่ 7 เม.ย. บริษัทได้ดำเนินการปรึกษาหารือภายในคณะผู้บริหารและทนายความของบริษัทแล้วในเบื้องต้น โดยนายเฉลิมชัยไม่มีส่วนร่วม บริษัทจะเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายและใช้สิทธิต่อสู้คดีในชั้นศาลอย่างเต็มความสามารถ และในการพิจารณาและดำเนินการใดๆเกี่ยวกับคดีนี้ในภายภาคหน้า นายเฉลิมชัย จะไม่มีส่วนร่วมในการดำเนินงาน พิจารณาเข้าประชุม หรือแสดงความคิดเห็นใดๆ เพื่อหลีกเลี่ยงการขัดกันของผลประโยชน์ระหว่างบริษัท