"เวียดนามยังเป็นตลาดที่มีโอกาสเติบโตอีกมาก เพราะมีแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง และมีปริมาณประชากรที่มีมากกว่า 90 ล้านคน... และมีความพร้อมในด้านปัจจัยพื้นฐานต่างๆ ดังนั้น บริษัทก็ยังคงขยายการลงทุนธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารครบวงจรในเวียดนามอย่างต่อเนื่อง"นายมนตรี กล่าว
นายมนตรี กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้าหมายธุรกิจอาหารสำเร็จรูปจะเติบโต 30% ในปีนี้ เนื่องจากธุรกิจการส่งออกอาหารสำเร็จรูปของเวียดนามมีแนวโน้มเติบโตขึ้น ประกอบกับคนเวียดนามเองบริโภคอาหารนอกบ้านและอาหารสำเร็จรูปเพิ่มขึ้น เป็น ผลจากการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของสังคมเมืองของเวียดนาม ประชากรมีความรู้และรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นผลจากภาพรวมเศรษฐกิจของเวียดนามมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่ซี.พี.เวียดนามมีธุรกิจการเลี้ยงสัตว์ทั้งสัตว์บก และสัตว์น้ำที่ดำเนินธุรกิจอยู่แล้วกว่า 20 ปี โดยปัจจุบันมีโรงงาน แปรรูปอาหารเนื้อหมูและไก่ 2 แห่ง และสัตวน้ำ 3 แห่ง รวมทั้งยังมีร้านค้าหรือช่องทางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของตัวเองในรูปแบบ ซุ้มห้าดาว ร้านซีพีเฟรชมาร์ท และร้านซีพีช็อปเป็นตู้เย็นชุมชนทั่วประเทศอีกด้วย ดังนั้น จึงมีความพร้อมที่จะขยายเข้าสู่ธุรกิจอาหารสำเร็จรูปอย่างเต็มรูปแบบ นายมนตรี กล่าวว่า ปีนี้มีแผนที่จะเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายซึ่งเป็นกลยุทธ์ในกระจายสินค้าอาหารสำเร็จรูปของบริษัท นอกเหนือจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปไปที่โมเดิร์นเทรด และธุรกิจร้านอาหาร โดยตั้งเป้าในสิ้นปี 58 ซี.พี.เวียดนามจะมีซุ้มห้าดาวเพิ่มเป็น 1,200 สาขาทั่วประเทศเวียดนาม จากปัจจุบันมีอยู่แล้ว 600 สาขา ส่วนร้านซีพีเฟรชมาร์ทจะมี 20 สาขาซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในเมืองใหญ่ ได้แก่ โฮจิมินซิตี้ ฮานอย และดานัง ส่วนร้านซีพีช็อป หรือตู้เย็นชุมชนในปีนี้จะขยายเพิ่มเป็น 300 ร้านภายในสิ้นปี นอกจากนี้อุตสาหกรรมการเลี้ยงสัตว์โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการเลี้ยงหมู ยังมีโอกาสพัฒนาเติบโตได้อีกมาก เนื่องจากความต้องการบริโภคหมูของเวียดนามสูงถึง 47 ล้านตัว/ปี ขณะที่ ซี.พี.เวียดนาม ถือเป็นผู้ผลิตเชิงอุตสาหกรรมรายใหญ่อันดับ 1 ของเวียดนาม มีกำลังผลิตเพียง 3.9 ล้านตัว/ปี หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 10% ของประเทศเท่านั้น
สำหรับผลประกอบการ ในปี 58 ซี.พี.เวียดนามคาดว่าจะมีรายได้รวมประมาณ 2.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ เติบโต 15% จากยอดขายประมาณ 2 พันล้านเหรียญสหรัฐในปีที่ผ่านมา โดยส่วนใหญ่ 95% เป็นยอดขายจากในประเทศเวียดนาม ส่วนที่เหลือเป็นรายได้จากการส่งออก ขณะที่ซี.พี.เวียดนาม ได้เข้าไปลงทุนในเวียดนามตั้งแต่ปี 31 จนถึงปัจจุบัน โดยได้ลงทุนไปแล้วประมาณ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ