PTTEP เผย Q1/58ปริมาณขาย-ราคาเฉลี่ยต่ำกว่า Q4/57,คืบหน้าสำรวจแหล่งผลิต

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday April 30, 2015 13:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) เผยกำไรสุทธิไตรมาส 1/58 ที่ระดับ 8.62 พันล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ปริมาณขายปิโตรเลียมเพิ่มขึ้น แต่ราคาขายเฉลี่ยปรับลดลง แต่เมื่อเทียบช่วงไตรมาส 4/57 สามารถพลิกมีกำไรสุทธิได้ แม้ปริมาณขายและราคาขายเฉลี่ยลดลงก็ตาม แต่ไตรมาสนี้ไม่มีการรับรู้ขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์เหมือนในไตรมาสที่แล้ว ขณะที่มีความคืบหน้าการสำรวจปิโตรเลียมในแหล่งต่างๆ โดยคาดว่าแหล่งสำรวจในเมียนมาร์ เอสซี จี-อีพี 2 จะเสร็จสิ้นในไตรมาส 4/58 และเอ็มโอจีอี 3 จะเริ่มสำรวจได้ในช่วงปลายปี 59

PTTEP รายงานผลประกอบการไตรมาส 1/58 มีรายได้รวมทั้งสิ้น 1,497 ล้านดอลลาร์ เทียบเท่า 48,870 ล้านบาท ลดลง 18% ในรูปสกุลดอลลาร์เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1/57 และมีค่าใช้จ่ายรวมเพิ่มขึ้น 10% มาที่ 1,218 ล้านดอลลาร์ เทียบเท่า 39,756 ล้านบาท ขณะที่มีกำไรสุทธิ 264 ล้านดอลลาร์ เทียบเท่า 8,616 ล้านบาท หรือคิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.07 ดอลลาร์เทียบเท่า 2.16 บาท ลดลงจากไตรมาสที่ 1/57 ที่มีกำไรสุทธิ 380 ล้านดอลลาร์ เทียบเท่า 12,435 ล้านบาท หรือคิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.10 ดอลลาร์ เทียบเท่า 3.12 บาท

ในไตรมาส 1/58 บริษัทมีปริมาณการขายเฉลี่ย 327,145 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นจาก 298,621 บาร์เรล/วันในไตรมาส 1/57 แต่ลดลงจากระดับ 347,295 บาร์เรล/วันในไตรมาส 4/57 ขณะที่มีราคาขายเฉลี่ยอยู่ที่ 48.74 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง จาก 64.92 ดอลลาร์/บาร์เรลในไตรมาส 1/57 และลดลงจาก 56.54 ดอลลาร์/บาร์เรลในไตรมาส 4/57

สำหรับกำไรสุทธิในรูปสกุลดอลลาร์ไตรมาส 1/58 ที่ลดลง 31% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1/57 เป็นผลจากราคาขายเฉลี่ยที่ลดลง แม้ว่าปริมาณขายจะเพิ่มขึ้นก็ตาม โดยปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นมาจากโครงการซอติก้าที่เริ่มผลิตก๊าซธรรมชาติในปี 57 และโครงการคอนแทร็ค 4 รวมทั้งโครงการสินภูฮ่อมจากการเข้าซื้อกิจการของบริษัท Hess Thailand ในปีที่ผ่านมา

แต่เมื่อเทียบกับผลประกอบการในไตรมาส 4/57 บริษัทมีพลิกมีกำไรสุทธิจากที่ขาดทุนสุทธิ 739 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสก่อน แม้ว่าปริมาณขายและราคาขายเฉลี่ยจะปรับลดลง แต่ในไตรมาสนี้ไม่มีการรับรู้ขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์เหมือนในไตรมาส 4/57 ที่รับรู้ขาดทุนจากการด้อยค่าในโครงการพีทีทีอีพี ออสตราเลเซียและโครงการมาเรียนา ออยล์ แซนด์ จำนวน 997 ล้านดอลลาร์

ขณะที่ปริมาณขายที่ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน เป็นผลจาก โครงการพีทีทีอีพี ออสตราเลเชีย ที่มีจำนวนการขนถ่ายน้ำมันดิบ เพื่อขายลดลงเป็น 3 ครั้ง ในไตรมาส 1/58 ขณะที่ไตรมาส 4/57 มีจำนวนการขนถ่ายเพื่อขาย 4 ครั้งและจากโครงการคอนแทร็ค 4 เนื่องจากบมจ.ปตท.(PTT) เรียกซื้อก๊าซฯ ในปริมาณที่ลดลงและมีการหยุดการผลิตตามแผนเพื่อการซ่อมบำรุง

"ผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ของบริษัทดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่เราใช้แนวทาง ลด ละ เลื่อน ตามโครงการ "SAVE…to be SAFE"ได้ตามแผน ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเราสามารถลดค่าใช้จ่าย ละและเลื่อนกิจกรรมและโครงการที่ยังไม่จำเป็นต้องทำหรือไม่เร่งด่วนออกไป ทำให้องค์กรมีการบริหารงานที่ยืดหยุ่นมากขึ้น ส่งผลให้เราสามารถรักษาสถานะการเงินที่แข็งแกร่งไว้ได้ โดยมีเงินสดในมือราว 4,000 ล้านดอลลาร์ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการลงทุนหากเห็นโอกาสทางธุรกิจ"นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ของ PTTEP กล่าว

PTTEP ยังได้ระบุถึงแผนงานในปีนี้ โดยคาดว่าปริมาณการขายจะเติบโตเมื่อเทียบกับปีก่อน โดยส่วนใหญ่มาจากการรับรู้ ปริมาณขายก๊าซฯ เต็มปีของโครงการซอติก้า ซึ่งเริ่มผลิตใน 57 การเข้าซื้อกิจการ Hess Thailand ในช่วงครึ่งแรกของปี 57 และการเริ่มผลิตน้ำมันจากโครงการแอลจีเรีย 433 เอ และ 416 บี ซึ่งคาดว่าจะเริ่มผลิตได้ภายในครึ่งปีหลัง ของปี 58

สำหรับแนวโน้มราคาน้ำมันดิบซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่มีผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทนั้น มองว่าราคายังคงมีความผันผวน โดยมีปัจจัยลบต่อเนื่องมาจากปริมาณน้ำมันดิบที่มีมากในตลาดหลังจากกลุ่มโอเปกยังคงไม่ลดกำลังการผลิต ในส่วนของไตรมาสที 2 ราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มที่จะปรับตัวลดลง จากฤดูกาลปิดซ่อมบำรุงประจำปี ของโรงกลั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเอเชีย ที่จะทำให้ความต้องการน้ำมันดิบลดลงตามไปด้วย

อย่างไรก็ตามบริษัทจะยังคงนโยบายการบริหารความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาน้ำมัน โดยการทำอนุพันธ์ประกันความเสี่ยงราคาน้ำมัน สำหรับผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมของกลุ่มบริษัท โดยใช้ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เป็นราคาอ้างอิง

ปัจจุบันนั้นบริษัทมีโครงการสำรวจ พัฒนา และผลิตปิโตรเลียมในประเทศไทย และต่างประเทศ รวม 43 โครงการ ใน 11 ประเทศ โดยมีความก้าวหน้าที่สำคัญ ได้แก่ โครงการในเมียนมาร์ พีเอสซี จี และอีพี 2 อยู่ระหว่างการเจาะหลุมสำรวจหลุมที่ 2 จากทั้งหมด 4 หลุมคาดว่าจะแล้วเสร็จสิ้นไตรมาส 4/58 ส่วนโครงการเมียนมาร์ เอ็มโอจีอี 3 คาดว่าจะเริ่มดำเนินการสำรวจได้ในปลายปี 59 ขณะที่โครงการเมียนมาร์เอ็ม 3 ได้เสร็จสิ้นการเจาะหลุมประเมินผลเพิ่มเติมจำนวน 5 หลุมตามแผนงาน ขณะนี้อยู่ระหว่างการประเมินปริมาณสำรองปิโตรเลียมและศักยภาพเชิงพาณิชย์

โครงการพีทีทีอีพี ออสตราเลเซีย โดยมีแหล่งมอนทารา ซึ่งเป็นแหล่งน้ำมันที่มีการผลิตแล้วที่อัตราเฉลี่ยในไตรมาส 1/58 ที่ 21,000 บาร์เรล/วัน ,โครงการมาเรียนา ออยล์ แซนด์ ในแคนาดา ได้ค้นพบปริมาณน้ำมันตามที่คาดหมายไว้ ขณะนี้อยู่ระหว่างรอการประเมินปริมาณสำรอง เพื่อนำมาประกอบการยื่นเรื่องพัฒนาโครงการ Thornbury Phase 1 ต่อรัฐบาล Alberta ต่อไป ,โครงการ บารารินเนียส์ เอพี 1 ในบราซิล คาดว่าจะเริ่มดำเนินการสำรวจได้ในไตรมาส 4 /58

ขณะที่โครงการในแอฟริกาและตะวันออกกลาง เช่น โครงการแอลจีเรีย 433 เอ และ 416 บี อยู่ระหว่างการก่อสร้างระบบการผลิตและท่อขนส่ง คาดว่าจะสามารถเริ่มการผลิตน้ำมันดิบได้ภายในครึ่งหลังของปีนี้ที่อัตราการผลิตประมาณ 20,000 บาร์เรล/วัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ