รายได้ค่านายหน้าจากการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าลดลง 4.79 ล้านบาท จาก 50.21 ล้านบาท เป็น 45.42 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 9.54
รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการเพิ่มขึ้น 86.57 ล้านบาท จาก 8.53 ล้านบาท เป็น 95.10 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 1,014.40 เนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าธรรมเนียมจากการรับประกันการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์และค่าที่ปรึกษาทางการเงินเพิ่มขึ้น 78.41 ล้านบาท และ 10.78 ล้านบาท ตามลำดับ
รายได้ดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น 55.56 ล้านบาท จาก 131.01 ล้านบาท เป็น 186.57 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 42.41 เนื่องมาจากการขยายตัวของตลาดทุนส่งผลให้เงินให้กู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์เฉลี่ยสำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2558 เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งมียอดเงินให้กู้ยืมเฉลี่ย 9,676 ล้านบาท เป็น 13,870 ล้านบาท
ค่าใช้จ่ายรวมของบริษัทฯ เพิ่มขึ้น 287.05 ล้านบาท จาก 546.49 ล้านบาท เป็น 833.54 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 52.53 ซึ่งค่าใช้จ่ายหลักที่เพิ่มขึ้นได้แก่ ต้นทุนทางการเงิน ซึ่งเพิ่มขึ้น 45.36 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 50.65 เนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นของดอกเบี้ยที่จ่ายให้แก่เงินวางหลักประกันของลูกค้าและเงินกู้ยืมค่าธรรมเนียมและบริการจ่าย ซึ่งเพิ่มขึ้น 24.88 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 60.43 และค่าใช้จ่ายเกียวกับพนักงาน ซึ่งเพิ่มขึ้น 193.80 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 71.90 เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าธรรมเนียมการซื้อขายหลักทรัพย์ และผลตอบแทนเจ้าหน้าที่การตลาด ซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่านายหน้า
ภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มขึ้น 60.21 ล้านบาท จาก 32.54 ล้านบาท เป็น 92.75 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 185.05 เนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นของกำไรก่อนค่าใช้จ่ายภาษี เงินได้