SCCC เผยว่าในไตรมาส 1/58 บริษัทมีรายได้สุทธิ 8,420 ล้านบาท จาก 8 ,653 ล้านบาท ของไตรมาส 1/57 และมีกำไรไรสุทธิ 1,392 ล้านบาท ลดลง 27% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีจำนวน 1 ,903 ล้านบาท โดยตลาดต่างประเทศยังเป็นปัจจัยหลักในการช่วยผลักดันให้ปริมาณการขายปูนซีเมนต์สูงขึ้น ขณะที่ตลาดในประเทศหดตัวลงจากปีก่อนอย่างต่อเนื่อง
โดยเป็นผลจากการชะลอตัวของโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ของรัฐบาล ตลอดจนการลงทุนของภาคเอกชน ปริมาณความต้องการที่ลดลงส่งผลให้ตลาดเกิดการแข่งขันที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น ทำให้ราคาขายปูนซีเมนต์ปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตามบริษัทสามารถรักษาระดับรายได้ในส่วนงานธุรกิจวัสดุก่อสร้างอื่น โดยการทำกิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง
ในส่วนของการดำเนินงานบริษัทได้วางแผนการผลิตปูนซีเมนต์ โดยใช้ทรัพย์สินและทรัพยากรในการผลิตอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ราคาถ่านหินที่มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง และโครงการควบคุมต้นทุนจากการประหยัดพลังงานต่างๆ เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้บริษัทมีความสามารถในการควบคุมต้นทุนการผลิต อย่างไรก็ตามค่าใช้จ่ายในการขายและการจัดจำหน่ายรวมถึงค่าใช้จ่ายในการบริหารปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างองค์กรในช่วงไตรมาสแรกปีนี้
สำหรับภาพรวมของตลาดปูนซีเมนต์ในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ มองว่าความต้องการของตลาดมีแนวโน้มที่สูงขึ้นจากการที่ภาครัฐเร่งการใช้จ่ายในโครงการต่างๆ ทั้งนี้จากการที่รัฐบาลมีทิศทางที่ชัดเจนมากขึ้นในนโยบายการลงทุนในสาธารณูปโภคยังส่งผลให้ภาคเอกชนมีการลงทุนที่เพิ่มขึ้นด้วย