ทั้งนี้ สืบเนื่องจากตามที่ บริษัทได้ยื่นแผนฟื้นฟูกิจการต่อกรมบังคับคดี เมื่อวันที่ 5 ส.ค.56 เจ้าหนี้ได้มติเห็นชอบด้วยแผนฟื้นฟูกิจการด้วยมติเสียงข้างมาก ในวันที่ 24 เม.ย.57 และเมื่อวันที่ 19 พ.ย.57 ศาลล้มละลายกลางได้นัดพิจารณาแผนฟื้นฟูกิจการ แต่ได้มีเจ้าหนี้บางรายได้ยืนคำร้องคัดค้านแผนฟื้นฟูกิจการ ศาลจึงมิอาจเห็นชอบด้วยแผน และมีคำสั่งให้ยกคำสั่งฟื้นฟูกิจการของบริษัท
ต่อมาทางบริษัทได้ให้ นายศักราช อัมวงษ์ เจ้าหนี้ผู้รับโอนสิทธิจาก เครดิต เอเชีย แคปปิตอล อ๊อฟชอร์ มาสเตอร์ ฟันด์ ลิมิเต็ด เจ้าหนี้รายที่36 เป็นผู้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.57 ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่ง ยกคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ เมื่อ วันที่ 23 ธ.ค.57 เนื่องจากไม่มีความชัดเจนเรื่องผู้ที่จะเข้ามาร่วมทุนกับบริษัท ทางบริษัทได้ให้ นายศักราช ยื่นขอคำร้องฟื้นฟูกิจการอีกครั้ง เมื่อวันที่ 4 ก.พ.58 และศาลได้รับคำร้องไว้แล้ว เป็นคดีหมายเลขดำที่ ฟ.3 / 2558
อย่างไรก็ตามวันที่ 5 ก.พ.58 ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งยกคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ เนื่องจากผู้ร่วมทุนมีทุนจดทะเบียนน้อยอาจไม่สามารถสนับสนุนการฟื้นฟูกิจการของบริษัทได้ และในวันเดียวกันนี้ ศาลล้มละลายกลางได้พิจารณาคดีที่ ทางธ.กสิกรไทย (KBANK) ที่ได้ฟ้องศาลล้มละลายไว้ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 19 พ.ย.57 ขอให้พิทักษ์ทรัพย์ของบริษัท ศาลจึงมีคำสั่งให้พิทักษ์ทรัพย์ของบริษัท ตั่งแต่วันที่ 5 ก.พ.58 เป็นต้นไป เนื่องจากศาลยกคำร้องแผนฟื้นฟูฯของบริษัทเมื่อวันที่ 19 พ.ย.57 เจ้าหนี้สามารถฟ้องล้มละลายบริษัทได้ จากคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของศาลล้มละลายดังกล่าว บริษัทจะต้องดำเนินการตามกระบวนการดังกล่าวต่อไปคือ ทางเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะเข้ามากำกับดูแลบริษัท หลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษา