ทั้งนี้ ตามที่ ตลท.มีหนังสือให้ EIC ชี้แจงข้อมูลงบการเงินประจำปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.57 เกี่ยวกับกรณี EIC ตั้งด้อยค่าเงินลงทุนในบริษัท สมาร์ท แทรฟิค จำกัด (สมาร์ท แทรฟิค) 64.69 ล้านบาท และส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุนในสมาร์ท แทรฟิค 6.99 ล้านบาท โดยผู้สอบบัญชีได้แสดงความเห็นอย่างมีเงื่อนไขว่าไม่สามารถตรวจสอบให้ได้หลักฐานที่เหมาะสมอย่างเพียงพอเกี่ยวกับมูลค่าเงินลงทุนในสมาร์ท แทรฟิค ขาดทุนจากการด้อยค่าของเงินลงทุน และส่วนแบ่งขาดทุนจากสมาร์ท แทรฟิค ซึ่ง EIC ได้ชี้แจงข้อมูลดังกล่าวเผยแพร่ผ่านระบบของตลาดหลักทรัพย์ในวันที่ 8 พ.ค.58 นั้น
เนื่องจากในวันที่ 9 มิ.ย.58 สำนักงาน ก.ล.ต. ได้สั่งการให้ EIC ให้ความร่วมมือกับผู้สอบบัญชีในการตรวจสอบและสอบทานงบการเงินงวดประจำปี 57 และงบการเงินไตรมาส 1/58 ซึ่งผู้สอบบัญชีแสดงความเห็นอย่างมีเงื่อนไขเนื่องจากถูกจำกัดขอบเขตการตรวจสอบและสอบทานโดยผู้บริหารและให้ EIC ส่งงบการเงินฉบับแก้ไขที่ผู้สอบบัญชีตรวจสอบและสอบทานแล้วต่อสำนักงาน ก.ล.ต. พร้อมเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวต่อสาธารณชนโดยเร็ว
สาเหตุของการสั่งการดังกล่าวเนื่องจากสำนักงาน ก.ล.ต. พบว่าผู้สอบบัญชีเสนอรายงานการตรวจสอบงบการเงินงวดปี 57 และรายงานการสอบทานงบการเงินไตรมาส 1/58 อย่างมีเงื่อนไขเนื่องจากถูกจำกัดขอบเขตการตรวจสอบโดยผู้บริหารของ EIC ทำให้ผู้สอบบัญชีไม่สามารถตรวจสอบให้ได้หลักฐานการสอบบัญชีที่เหมาะสมอย่างเพียงพอเกี่ยวกับมูลค่าเงินลงทุนใน สมาร์ท แทรฟิค ผลขาดทุนจากการด้อยค่าของเงินลงทุน และส่วนแบ่งขาดทุนจากสมาร์ท แทรฟิค
ตลท.จึงขึ้นเครื่องหมาย SP (Suspension) หลักทรัพย์ของ EIC เพื่อห้ามการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของบริษัทเป็นเวลา 1 วัน ในวันที่ 10 มิ.ย.58 เพื่อให้ผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนรับทราบข้อมูลดังกล่าวและมีเวลาพิจารณารายงานของผู้สอบบัญชีประกอบกับตัวเลขในงบการเงินและหมายเหตุประกอบงบการเงิน รวมทั้งข้อมูลที่ EIC เคยชี้แจงตามที่ตลาดหลักทรัพย์สอบถามในเรื่องดังกล่าวอย่างระมัดระวัง โดยจะอนุญาตให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของ EIC พร้อมกับการขึ้นเครื่องหมาย NP (Notice Pending) ตั้งแต่การซื้อขายรอบเช้าของวันที่ 11 มิ.ย.58 จนกว่า EIC จะนำส่งงบการเงินฉบับแก้ไข