CWT ระบุว่าการประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 8/2558 ได้พิจารณาความเห็นที่ปรึกษาทางการเงินอิสระเกี่ยวกับการได้มาซึ่งสินทรัพย์ ในโครงการแปลงขยะเป็นพลังงานไฟฟ้า โครงการแรก มูลค่าประมาณ 1,469 ล้านบาท ที่เห็นว่าการทำรายการดังกล่าวมีความเป็นไปได้ในเชิงเศรษฐกิจที่ยังไม่ชัดเจนแน่นอน และบริษัทอยู่ระหว่างการยื่นข้อเสนอเพื่อดำเนินโครงการดังกล่าวจากเทศบาล และยังไม่ทราบผลการยื่นข้อเสนอว่าจะได้รับอนุมัติให้ดำเนินโครงการนี้หรือไม่ และบริษัทก็ไม่สามารถดำเนินการส่งเอกสารสัญญาสำคัญให้กับที่ปรึกษาทางการเงินอิสระได้
เช่น สัญญาร่วมทุนระหว่าง CWT ,บริษัท ซีโรเวซท์ จำกัด (ZW) และบริษัท ลาวี เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (LAWIT) ,เงื่อนไขการกู้ยืมจากสถาบันการเงิน สัญญารับจ้างบริหารจัดการขยะจากเทศบาล สัญญารับซื้อไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สัญญาซื้อขายที่ดินเพื่อก่อสร้างโรงไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงพลังงานขยะ (RDF) สัญญาเช่าที่ดินกับเทศบาลฯเพื่อก่อสร้างโรงผลิตเชื้อเพลิงพลังงานขยะ (RDF Plant) สัญญาว่าจ้างออกแบบและก่อสร้างโรงผลิตเชื้อเพลิงพลังงานขยะ สัญญาว่าจ้างออกแบบและก่อสร้างโรงไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงพลังงานขยะ (RDF Power Plant) สัญญาการบริหารจัดการและบำรุงรักษาโรงงานทั้ง 2 แห่ง แบบคำขอใบอนุยาตร.ง.4 แบบคำขอการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอ รายงานสิ่งแวดล้อม ฯลฯ
โดยที่ปรึกษาเห็นว่าเอกสารเหล่านี้ล้วนแต่เป็นเอกสารที่มีความสำคัญต่อเงื่อนเวลาในการดำเนินโครงการ ซึ่งจะกระทบต่อต้นทุนและภาระทางการเงินที่แท้จริง ซึ่งจากการพิจารณาข้อมูลและเหตุผลดังกล่าวจึงมีความเห็นว่า ผู้ถือหุ้นไม่ควรลงมติอนุมัติการเข้าทำรายการในครั้งนี้
อย่างไรก็ตามคณะกรรมการบริษัท ยังคงมีมติอนุมัติให้นำเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการลงทุนในโครงการดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่ามีความเหมาะสม และเป็นประโยชน์ต่อบริษัท ซึ่งเป็นการลงทุนธุรกิจพลังงานที่จะเป็นทางเลือกใหม่ที่มีโอกาสในการเพิ่มรายได้และกำไรให้กับบริษัทนอกเหนือจากธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เบาะหนัง ชิ้นส่วนหนังสำหรับรถยนต์ และเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากหนังสัตว์
สำหรับรายละเอียดเอกสารสำคัญที่ทางที่ปรึกษาทางการเงินอิสระยังไม่ได้รับนั้น บริษัทเห็นว่าเอกสารสำคัญดังกล่าวเป็นเอกสารสำคัญต่อการวิเคราะห์ความสมเหตุสมผลของโครงการ และคาดว่าจะเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารสัญญาต่างๆได้ก็ต่อเมื่อได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากอาจมีผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันเพื่อที่จะเข้าลงทุนในโครงการดังกล่าว ซึ่งทางบริษัทคาดว่าจะสามารถทราบผลการอนุมัติในส่วนของการเป็นผู้รับจ้างกำจัดขยะจากเทศบาลภายในเดือนส.ค.58 และเข้าทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.)ภายในเดือนก.ย.58