การคัดเลือกหลักทรัพย์ที่เป็นองค์ประกอบของดัชนี SET50 และ SET100 ในครั้งนี้ เป็นไปตามเกณฑ์ที่ปรับปรุงใหม่ ซึ่งเพิ่มเติมเกณฑ์พิจารณาสัดส่วนของจำนวนหุ้นที่มีการซื้อขายเทียบกับจำนวนหุ้นจดทะเบียนของบริษัทด้วย นอกเหนือจากการพิจารณามูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (market capitalization) การกระจายของผู้ถือหลักทรัพย์รายย่อย (free float) และมูลค่าซื้อขายของหลักทรัพย์เทียบกับค่าเฉลี่ยของตลาดโดยรวม ทั้งนี้ เพื่อให้มั่นใจว่าหุ้นในดัชนีมีสภาพคล่องและสามารถซื้อขายได้
รายชื่อหลักทรัพย์ใหม่สำหรับดัชนี SET50 จำนวน 7 หลักทรัพย์ประกอบด้วย บมจ.การบินกรุงเทพ (BA) บมจ.รถไฟฟ้ากรุงเทพ (BMCL) บมจ.คาราบาวกรุ๊ป(CBG) บมจ.อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ (ITD) บมจ.ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 1979 (SAWAD) บมจ.ทีพีไอ โพลีน(TPIPL) และ บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) โดยหลักทรัพย์ทั้งหมดที่อยู่ในดัชนี SET50 มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวม 9.33 ล้านล้านบาท คิดเป็น 67% ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมของตลาดหลักทรัพย์ฯ ณ สิ้นเดือน พ.ค.58
ส่วนดัชนี SET100 มีหลักทรัพย์ใหม่ 13 หลักทรัพย์ ได้แก่ บล.เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์(ASP) บมจ.การบินกรุงเทพ(BA) บมจ.บิวตี้ คอมมูนิตี้ (BEAUTY) บมจ.คาราบาว กรุ๊ป(CBG) บมจ.ซีเค พาวเวอร์(CKP) บมจ.แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป(LHBANK) บมจ.โมโน เทคโนโลยี(MONO) บมจ.อาร์เอส(RS) บมจ.สิงห์ เอสเตท(S) บมจ.เซ็ปเป้(SAPPE) บมจ.ยู ซิตี้ (U) บมจ.ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น(UNIQ) และบมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) โดยมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมของหลักทรัพย์ทั้งหมดในดัชนี SET100 ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2558 นั้นอยู่ที่ 10.38 ล้านล้านบาท คิดเป็น 74% ของมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดรวมของตลาดหลักทรัพย์ฯ
ในขณะที่ SETHD มีหลักทรัพย์ใหม่ 4 หลักทรัพย์ ได้แก่ บล.เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์(ASP) บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) บมจ.ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส (HANA) และ บมจ.พฤกษา เรียลเอสเตท(PS)
ทั้งนี้ หลักทรัพย์ที่อยู่ในดัชนี SETHD มีอัตราผลตอบแทนเงินปันผลเฉลี่ย 4.12% สูงกว่าอัตราผลตอบแทนเงินปันผลของตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยรวม ซึ่งมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 2.60% สำหรับเดือน มี.ค.-พ.ค.58