TTL แจ้งว่าตามที่บริษัทได้หยุดการผลิตและการดำเนินงานด้านสิ่งทอ ซึ่งเป็นธุรกิจเดียวของบริษัทตังแต่วันที่ 1 ก.ค.57 และมีแผนจำหน่ายสินค้าคงเหลือ อาคารโรงงาน เครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ใช้ในการดำเนินธุรกิจนั้น บริษัทคาดว่าการขยายสินทรัพย์ที่ดิน ในจ.ปทุมธานี ซึ่งมีเนื้อที่รวม 140 ไร่ 2 งาน 94 วา ให้แก่บมจ.เจ.เอส.พี.พร็อพเพอร์ตี้ (JSP) เป็นจำนวน 680 ล้านบาทนั้น คาดว่าจะจำหน่ายที่ดินได้แล้วเสร็จสมบูรณ์ภายในเดือนพ.ย.58 ซึ่งอาจทำให้เข้าข่ายเป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีการจำหน่ายสินทรัพย์ที่ใช้ในการประกอบธุรกิจปกติของบริษัททั้งหมดหรือเกือบทั้งหมด เป็นผลให้บริษัทมีสินทรัพย์ทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมดในรูปเงินสด หรือหลักทรัพย์ระยะสั้น ตามเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)
บริษัทต้องจัดส่งรายงานแสดงฐานะทางการเงินภายใน 30 วันนับแต่วันที่มีการจำหน่ายสินทรัพย์ และต้องดำเนินการให้มีธุรกิจที่มีคุณสมบัติที่จะจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯให้แล้วเสร็จภายใน 12 เดือนนับจากวันที่ตลท.ได้รับรายงานแสดงฐานะการเงินที่ถูกต้องครบถ้วน หากบริษัทไม่สามารถดำเนินการได้ คณะกรรมการตลท.อาจพิจารณาสั่งเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนได้
อย่างไรก็ตามบริษัทพยายามเร่งดำเนินการสรรหาธุรกิจใหม่ตามกรอบระยะเวลาที่กำหนด แต่ยังต้องดำเนินการและพิจารณาด้วยความละเอียดรอบคอบเพื่อลดปัจจัยเสี่ยงต่างๆ จึงต้องใช้เวลาศึกษาประเด็นต่างๆเพิ่มเติมอีกมาก หลังจากที่ผลการศึกษาของสถาบันบัณฑิตพัฒนาบริหารศาสตร์ (นิด้า) ได้ทำการวิจัยตลาด ศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ แผนธุรกิจ และการออกแบบเบื้องต้น ซึ่งบริษัทได้รับรายงานฉบับสมบูรณ์จากนิด้าเมื่อวันที่ 21 พ.ค.58 และจัดให้มีการประชุมคณะกรรมการเพื่อพิจารณาผลการศึกษาเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ปรากฎว่าคณะกรรมการบริษัท มีความเห็นเบื้องต้นว่าผลการศึกษาดังกล่าวมีมูลค่าการลงทุนที่สูง มีลักษณะธุรกิจที่หลากหลายและซับซ้อนอาจทำให้มีความเสี่ยงของเงินลงทุนอยู่ในระดับที่สูง