โดยโครงการจะเป็นการนำขยะพลาสติกปนเปื้อนมารีไซเคิล ช่วยในการกำจัดขยะชุมชน โครงการสามารรับรู้รายได้ได้อย่างรวดเร็ว และเพิ่มรายได้ให้กับบริษัท เริ่มตั้งแต่ประมาณเดือนม.ค.59 ซึ่งแหล่งเงินลงทุนในครั้งนี้จะมาจากการเพิ่มทุนของบริษัท
ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการของ IEC ได้ตัดสินใจลงทุนโครงการผลิตเม็ดพลาสติกจากพลาสติกปนเปื้อน ที่จังหวัดระยอง เมื่อวันที่ 2 เม.ย.58 ขนาดกำลังการผลิต 300 ตัน/วัน ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าที่คาดว่าจะเริ่ม 5 สายการผลิตแรก ณ ขนาดการผลิต 100 ตัน/วันได้ภายในเดือนส.ค.58 และคาดว่าจะมีสายการผลิตทั้งสิ้น 15 สาย คิดเป็นกำลังการผลิตรวมทั้งสิ้น 300 ตัน/วัน ภายในเดือนม.ค.59 แต่เนื่องจากความต้องการเม็ดพลาสติกปนเปื้อนในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ประเทศจีนนั้นยังมีความต้องการเม็ดพลาสติกปนเปื้อนอีกมากประมาณ 8 ล้านตัน/ปี
ด้วยกำลังการผลิตของโรงงานเม็ดพลาสติกปนเปื้อนของบริษัทที่จังหวัดระยองยังไม่เพียงพอที่จะตอบสนองความต้องการของเม็ดพลาสติกในตลาดส่งออกดังกล่าวได้ ประกอบกับบริษัทก็ได้ทำการสำรวจและพิจารณาแล้วเห็นว่าปริมาณวัตถุดิบพลาสติกปนเปื้อนในภาคใต้ที่จังหวัดสงขลา พัทลุง ยะลา นราธิวาส และปัตตานี มีปริมาณสะสมมากกว่า 704,088 ตัน
นอกจากนี้ยังมีขยะชุมชนที่เหลือจากการใช้เป็นเชื้อเพลิงของโรงไฟฟ้าขยะที่หาดใหญ่ไม่น้อยกว่าวันละ 400 ตัน ซึ่งรวมแล้วมากเพียงพอที่จะตั้งโรงงานผลิตเม็ดพลาสติกแห่งที่สองของบริษัท ในนิคมอุตสาหกรรมภาคใต้ตำบลฉลุง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ที่มีความต้องการวัตถุดิบประเภทพลาสติกปนเปื้อน 120 ตัน/วัน หรือ 438,000 ตันตลอดอายุโครงการ 10 ปี คณะกรรมการบริษัทจึงได้มีมติให้ตั้งโรงงานแห่งที่สองในพื้นที่ดังกล่าว