(เพิ่มเติม) ตลท.รับหลักทรัพย์ WICE เข้าซื้อขายวันแรก 28 ก.ค.นี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday July 27, 2015 13:43 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ. ไวส์ โลจิสติกส์ (WICE) ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศแบบครบวงจร ครอบคลุมกว่า 100 ประเทศ พร้อมซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ 28 ก.ค. นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,260 ล้านบาท

นายสันติ กีระนันทน์ รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) เปิดเผยว่า WICE จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2558 โดยจะเข้าจดทะเบียนในกลุ่มบริการ หมวดธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์

ทั้งนี้ WICE เป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศแบบครบวงจร ทั้งการนำเข้าและส่งออก โดยการขนส่งทางทะเลและทางอากาศครอบคลุมกว่า 100 ประเทศทั่วโลก พร้อมทั้งให้บริการด้านพิธีการศุลกากรและการขนส่งในประเทศ WICE มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในเส้นทางการขนส่งทางทะเล ปัจจุบันครอบคลุมท่าเรือหลักในเขตการค้าสำคัญในประเทศต่างๆ โดยประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นตลาดหลัก รองลงมาได้แก่ ประเทศญี่ปุ่น ประเทศออสเตรเลีย และประเทศจีน

WICE มีทุนชำระแล้ว 300 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 450 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 150 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนทั้งจำนวนต่อประชาชนทั่วไป (IPO) เมื่อวันที่ 20-22 กรกฎาคม 2558 ในราคาหุ้นละ 2.10 บาท มูลค่าระดมทุน 315 ล้านบาท ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,260 ล้านบาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

นางอารยา คงสุนทร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร WICE เปิดเผยว่า การนำหุ้นสามัญของบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ครั้งนี้ จะเสริมสร้างโอกาสทางธุรกิจและการเติบโตของบริษัท โดยจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปสร้างคลังสินค้า เพิ่มจำนวนรถบรรทุกหัวลาก-หางพ่วง ขยายพื้นที่ลานจอดรถบรรทุก พัฒนาระบบสารสนเทศ และใช้เป็นเงินหมุนเวียนในกิจการ เพื่อรองรับการขยายตัวด้านโลจิสติกส์ และเตรียมพร้อมสำหรับการเติบโตอย่างมีศักยภาพต่อไป

WICE มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ กลุ่มครอบครัวคงสุนทรและตันติกุลสุนทร 64.7% กลุ่มนาย ลิม เมง ปุย 7.8% และ นาย ฟุง ไตย ไวย 2.6% ทั้งนี้ การกำหนดราคาเสนอขายหุ้นครั้งนี้ คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E Ratio) ที่ 21 เท่า คำนวณจากผลประกอบการในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา (1 เมษายน 2557-31 มีนาคม 2558) ซึ่งเท่ากับ 59.98 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.10 บาท

ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิ ภายหลังการหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และเงินสำรองตามที่กฎหมายกำหนด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ