COM7 ประกอบธุรกิจจำหน่าย สินค้าไอทีประเภทคอมพิวเตอร์แล็บท็อป คอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ โทรศัพท์เคลื่อนที่ แท็บเล็ต อุปกรณ์เสริมที่เกี่ยวข้อง และการให้บริการซ่อมแซมสินค้า รวมถึงการให้บริการเกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือ เช่น การสมัครเปิดเบอร์ เปลี่ยนโปรโมชั่น ย้ายค่ายเปลี่ยนซิม และจุดรับชำระค่าบริการต่างๆ ของผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ทั้ง 3 รายได้แก่ AIS, Dtac และ True รวมทั้งเป็นจุดชำระค่าบริการสาธารณูปโภค
บริษัทมีจำนวนสาขามากที่สุดในประเทศไทย โดยมีช่องทางการจำหน่ายสินค้าผ่านสาขาของบริษัทที่เป็นร้านค้าตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าชั้นนำและห้างไฮเปอร์มาร์เก็ต ครอบคลุมพื้นที่ทั้งในเขตกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด แบ่งเป็น 3 ช่องทาง ดังนี้ 1 ร้านจำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ร้าน Banana IT 2 ร้านจำหน่ายสินค้าและศูนย์ซ่อมและบริการสินค้าแบรนด์ Apple ได้แก่ ร้าน iStudio by Comseven ร้าน iBeat by Comseven, ร้าน U-Store by Comseven และศูนย์บริการ iCare และ 3 ร้านจำหน่ายสินค้าประเภทโทรศัพท์เคลื่อนที่และอุปกรณ์เสริม ได้แก่ ร้าน Banana Mobile, ร้าน Samsung Shop
นายสันติ กีระนันทน์ รองผู้จัดการ ตลท.เปิดเผยว่า COM7 จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ หมวดธุรกิจพาณิชย์ ในวันที่ 10 สิงหาคม 2558 โดย COM7 ดำเนินธุรกิจจำหน่ายสินค้าประเภทคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์เคลื่อนที่ แท็บเล็ต และอุปกรณ์เสริมที่เกี่ยวข้อง ภายใต้ร้าน Banana IT, Banana Mobile และจำหน่ายสินค้าแบรนด์ Apple ภายใต้ร้าน iStudio, iBeat, U Store By Comseven รวมทั้งศูนย์บริการ iCare โดย COM7 เป็นผู้จำหน่ายสินค้าไอทีที่มีสาขามากที่สุดในประเทศถึง 317 สาขา ทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑลและต่างจังหวัด กว่า 55 จังหวัด
COM7 มีทุนชำระแล้ว 300 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 900 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 300 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนทั้งจำนวนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม และ 3-4 สิงหาคม 2558 ในราคาหุ้นละ 3.35 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 1,005 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 4,020 ล้านบาท โดยมีบริษัทที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และ บล.เอเซีย พลัส เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร COM7 เปิดเผยว่า เงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้จะนำไปขยายสาขาร้านค้าปลีก ชำระคืนเงินกู้ และเป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งด้านเงินทุน รองรับการเติบโตด้วยการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายให้มากขึ้น โดย COM7 มีเป้าหมายที่จะรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจค้าปลีกสินค้าไอทีของประเทศ
หลัง IPO ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ COM7 3 ลำดับแรก ได้แก่ กลุ่มนายสุระ คณิตทวีกุล ถือหุ้น 59.63% นายบัญชา พันธุมโกมล ถือหุ้น 23.45% และนางสาวอารี ปรีชานุกูล ถือหุ้น 7.84% ทั้งนี้ การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) ที่ 17.82 เท่า โดยคำนวณจากกำไรสุทธิ 12 เดือนย้อนหลัง (1 เมษายน 2557 ถึง 31 มีนาคม 2558) หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.188 บาท ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้และเงินสำรองต่างๆ ตามกฎหมายจากงบการเงินเฉพาะกิจการ