SUPER จะใช้เงินราว 1.95 หมื่นลบ.ซื้อโซลาร์ฟาร์มหลายแห่ง รวม 290.05 MW

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday August 13, 2015 08:58 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ซุปเปอร์บล๊อก (SUPER) เตรียมใช้เงินราว 19,543.56 ล้านบาท เพื่อเข้าซื้อกิจการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ประเภทโซลาร์ฟาร์ม 5 รายการ รวม 44 โครงการ มีกำลังการผลิตรวม 290.05 เมกะวัตต์(MW) ซึ่งจะเป็นทั้งการเข้าซื้อหุ้น หรือการรับโอนสิทธิ รวมถึงการเพิ่มทุนใหม่ สำหรับแหล่งเงินลงทุนดังกล่าวจะมาจากเงินเพิ่มทุนจดทะเบียน และเงินที่ได้จากการแปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ(วอร์แรนต์) รุ่นที่ 1,2 และ 3 ซึ่งคาดว่าจะได้รับเงินรวมทั้งสิ้น 18,850 ล้านบาท

SUPER แจ้งว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้บริษัท ซุปเปอร์ โซล่าร์ เอนเนอร์ยี จำกัด (SSE) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยเข้าทำรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ โดยการลงทุนในโครงการโซลาร์ฟาร์ม จำนวน 5 รายการ ได้แก่ การเข้าซื้อหุ้นและเพิ่มทุนใหม่ในบริษัท พาวเวอร์ เทคโนโลยี อินเตอร์เนชั่นแนลจำกัด (PTI)

โดย PTI เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Cell) จำนวน 9 โครงการขนาดรวม 55.6 เมกะวัตต์ ซึ่งปัจจุบันได้รับหนังสือแจ้งผลพิจารณาการรับซื้อไฟฟ้า (Letter of Intent :LOI) กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) แล้ว โดยมีมูลค่าการเข้าทำรายการทั้งหมดไม่เกิน 3,719.44 ล้านบาท ประกอบด้วยมูลค่าโครงการประมาณ 3,447 ล้านบาท และมูลค่าการซื้อหุ้นสามัญของPTI จำนวน 272.44 ล้านบาท ซึ่งภายหลังการเข้าทำรายการแล้วจะส่งผลให้ SSE เข้าถือหุ้นใน PTI ในสัดส่วน 49.00%

การเข้าซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นเดิมและเพิ่มทุนใหม่ในบริษัท เอ็นเนอร์จี เซิฟ จำกัด (ESERVE) ซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิทรัพย์สินทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ จำนวน 13 โครงการขนาดรวม 81.45 เมกะวัตต์ ซึ่งปัจจุบันได้รับหนังสือแจ้งผลพิจารณาการรับซื้อไฟฟ้า (LOI) กับกฟภ.แล้ว โดยมีมูลค่าการเข้าทำรายการทั้งหมดรวม ไม่เกิน 5,453.72 ล้านบาท ประกอบด้วยมูลค่าโครงการประมาณ 5,050 ล้านบาท และมูลค่าการซื้อหุ้นสามัญของ ESERVE ทั้งทางตรงและทางอ้อมจำนวน 403.72 ล้านบาท ซึ่งภายหลังการเข้าทำรายการแล้วจะส่งผลให้ SSE เข้าถือหุ้นใน ESERVE ในสัดส่วน 49.00% ของจำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมด

การเข้าซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นเดิมและเพิ่มทุนใหม่ในบริษัท อินฟินิท อัลเทอร์เนทีฟ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (IAE) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นอยู่ใน บริษัท รางเงิน โซลูชั่น จำกัด (RNS) ในสัดส่วน 99.98% ของทุนจดทะเบียน โดย RNS มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) กับกฟภ.แล้ว จำนวน 11 โครงการ ขนาดรวม 87.00 เมกะวัตต์ โดยมีมูลค่าการเข้าทำรายการทั้งหมดรวม ไม่เกิน 5,922 ล้านบาท ประกอบด้วยมูลค่าโครงการประมาณ 5,632 ล้านบาท และมูลค่าการซื้อหุ้นสามัญของ IAE 290.00 ล้านบาท ซึ่งภายหลังการเข้าทำรายการแล้วจะส่งผลให้ SSE เข้าถือหุ้นใน IAE ในสัดส่วน 33% ของจำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมด

การเข้าซื้อหุ้นและเพิ่มทุนใหม่ในบริษัท อามานูฟ จำกัด (AMN) โดย SSE จะเข้าลงทุนใน AMN ซึ่งเป็นผู้รับโอนสิทธิประโยชน์ในคำขอจำหน่ายไฟฟ้าระบบพลังงานแสงอาทิตย์และสิทธิประโยชน์ในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับกฟภ. จำนวน 5 โครงการขนาดรวม 30.0 เมกะวัตต์จากบริษัท เอ็น.พี.เอส.สตาร์กรุ๊ป จำกัด (NPS) มีมูลค่าการเข้าทำรายการทั้งหมดไม่เกิน 2,056.00 ล้านบาท ประกอบด้วยมูลค่าโครงการประมาณ 1,860.00 ล้านบาท และมูลค่าการรับโอนสิทธิจาก NPS จำนวน 196.00 ล้านบาท ซึ่งภายหลังการเข้าทำรายการแล้วจะส่งผลให้ SSE เข้าถือหุ้นใน AMN ในสัดส่วน 49%

การเข้าซื้อหุ้นและเพิ่มทุนใหม่ในบริษัท ศรีนาคา พาวเวอร์ จำกัด (SNP) โดย SSE จะเข้าลงทุนใน SNP ซึ่งเป็นผู้รับโอนสิทธิประโยชน์ในคำขอจำหน่ายไฟฟ้าระบบพลังงานแสงอาทิตย์และสิทธิประโยชน์ในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับกฟภ. จำนวน 6 โครงการขนาดรวม 36.0 เมกะวัตต์จากบริษัท เอ็น.พี.เอส.สตาร์กรุ๊ป จำกัด (NPS) มีมูลค่าการเข้าทำรายการทั้งหมดไม่เกิน 2,392.40 ล้านบาท ประกอบด้วยมูลค่าโครงการประมาณ 2,232 ล้านบาท และมูลค่าการรับโอนสิทธิจากNPSจำนวน 160.40 ล้านบาท ซึ่งภายหลังการเข้าทำรายการแล้วจะส่งผลให้ SSE เข้าถือหุ้นใน SNP ในสัดส่วนร้อยละ 49% ของจำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้วทั้งหมด

สำหรับแหล่งเงินลงทุนที่จะใช้ในการลงทุนดังกล่าว จะมาจากการเพิ่มทุนและการแปลงสภาพวอรแรนต์ โดยคาดว่าจะมีมูลค่ารวมทั้งสิ้นประมาณ 18,850 ล้านบาท โดยมาจากการแปลงสภาพวอร์แรนต์ รุ่นที่ 1,2 และ 3 รวม 13,850 ล้านบาท และการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท ไม่เกิน 2 พันล้านหุ้น ให้แก่บุคคลในวงจำกัด ในราคาหุ้นละ 2.50 บาท รวมเป็นเงินประมาณ 5,000 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ