นอกจากนี้ เพื่อให้การจำหน่ายไปซึ่งสิทธิการเป็นสมาชิกตลาดหลักทรัพย์ และสิทธิการเป็นสมาชิก TFEX ประสบความสำเร็จสูงสุด FSL และคู่กรณีทุกฝ่ายจะต้องมีการดำเนินการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยผลของการทำรายการดังกล่าวจะทำให้ในที่สุด FSL ได้รับสิ่งตอบแทนในรูปสิ่งตอบแทนที่เป็นตัวเงินจำนวน 80,000,000 บาท จาก SBITO และได้รับหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บล.ฟินันเซียไซรัส (FSS) คิดเป็นมูลค่าประมาณ 100,000,100 บาท ในราคาตลาดซึ่งคำนวณจากราคาถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นสามัญของ FSS ย้อนหลัง 15 วันทำการ ก่อนวันที่คณะกรรมการของ FSS มีมติให้เสนอวาระต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติ การออกและเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าว
ทั้งนี้ จากการคำนวณราคาตลาดของหุ้นสามัญของ FSS ซึ่งคำนวณจากราคาถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นสามัญของ FSS ย้อนหลัง 15 วันทำการ ก่อนวันที่ 21 สิงหาคม 2558 ซึ่งเป็นวันที่คณะกรรมการของ FSS มีมติให้เสนอต่อวาระที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติการออกและเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวนั้น จะได้ราคาหุ้นเท่ากับหุ้นละ 3.19 บาท คิดเป็นจำนวน 31,347,993 หุ้น มูลค่ารวมเท่ากับ 100,000,098 บาท โดยคาดว่าการทำรายการดังกล่าวจะแล้วเสร็จภายในไตรมาสที่ 4/2558
SBITO เป็นบริษัทร่วมของ FSS ซึ่งเป็นบริษัทร่วมของบริษัท โดยบริษัทถือหุ้นใน FSS ผ่าน FSL ทั้งนี้ สัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทใน FSL และสัดส่วนการถือหุ้นของ FSL ใน FSS รวมทั้งสัดส่วนการถือหุ้นของ FSS ใน SBITO เท่ากับร้อยละ 100 ร้อยละ 25.26 และร้อยละ 45 ตามลำดับ
ทั้งนี้ เงื่อนไขในการรับชำระราคา ในการจำหน่ายไปซึ่งสิทธิการเป็นสมาชิกตลาดหลักทรัพย์ และสิทธิการเป็นสมาชิก TFEX แบ่งเป็น 3 งวด ดังนี้
งวดที่ 1 ชำระเงินจำนวน 100,000,000 บาท ให้กับ FSL ภายในวันที่ SBITO กำหนดให้มีการชำระเงินจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน
งวดที่ 2 ชำระเงินจำนวน 40,000,000 บาท ให้กับ FSL ภายใน 1 ปี นับจากกำหนดการชำระราคาในงวดที่ 1
งวดที่ 3 ชำระเงินจำนวน 40,000,000 บาท ให้กับ FSL ภายใน 1 ปี นับจากกำหนดการชำระราคาในงวดที่ 2
ในการเข้าซื้อสิทธิการเป็นสมาชิกตลาดหลักทรัพย์ และสิทธิการเป็นสมาชิก TFEX ผู้ซื้อ คือ SBITO ตกลงจะจัดหาแหล่งเงินทุนจากการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 2,222,222 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 100 บาท ในราคา 100 บาทต่อหุ้น รวมเป็นมูลค่า 222,222,200 บาท เพื่อเสนอขายแก่ผู้ถือหุ้นเดิม
ทั้งนี้ ในเบื้องต้น ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ SBITO แต่ละราย ซึ่งได้ แก่ SBI Group และ FSS ได้ แจ้งว่า SBI Group มีความประสงค์ จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าวตามสัดส่วน อย่างไรก็ดี ในกรณีของ FSS นั้น FSS ได้ แจ้งว่า FSS ยังไม่มีนโยบายจะจ่ายเงินเพื่อลงทุนในหุ้นของ SBITO เพิ่มเติม แต่ยังคงประสงค์จะรักษาสัดส่วนการถือหุ้นใน SBITO ต่อไป โดยสนใจที่จะชำระราคาค่าหุ้นโดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ FSS
ในกรณีของ FSL นั้น FSL ไม่มีความประสงค์จะถือหุ้นโดยตรงใน SBITO แต่ยินดีถือหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ FSS เพิ่มเติม ดังนั้น เพื่อให้การจำหน่ายไปซึ่งสิทธิการเป็นสมาชิกตลาดหลักทรัพย์ และสิทธิการเป็นสมาชิกTFEX ประสบความสำเร็จสูงสุด FSL จะดำเนินการดังนี้
1. ซื้อหุ้นสามัญเดิมของ SBITO จำนวน 1 หุ้น เพื่อเข้าเป็นผู้ถือหุ้นสามัญเดิมของ SBITO โดย FSL ได้เจรจากับผู้ถือหุ้นเดิมรายหนึ่งแล้ว คือ นางพรพริ้ง สุขสันติสุวรรณ โดยผู้ถือหุ้นดังกล่าวยินยอมขายหุ้นจำนวน 1 หุ้น ให้กับ FSL ในราคาตามมูลค่าที่ตราไว้ คือหุ้นละ 100 บาทต่อหุ้น
2. ซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ SBITO ในจำนวนไม่เกิน 100,000,000 บาท ในราคาตามมูลค่าที่ตราไว้ คือ หุ้นละ 100 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ SBITO เสนอขายต่อผู้ถือหุ้นเดิมทุกราย