ขณะที่เมื่อวันที่ 19 พ.ค.รายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ในส่วนของโครงการ CUP-4 ซึ่งครอบคลุมกำลังการผลิตไฟฟ้า 392 เมกะวัตต์ และไอน้ำ 900 ตันต่อชั่วโมง ได้ผ่านความเห็นชอบจากสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) เรียบร้อยแล้ว
นายนพดล ปิ่นสุภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ ของ GPSC กล่าวว่า แม้ภาวะเศรษฐกิจของไทยในปัจจุบันจะมีปัจจัยเสี่ยงอันเนื่องมาจากเศรษฐกิจจีนและสหภาพยุโรป (อียู) ที่ชะลอตัวลง แต่ขอให้นักลงทุนมั่นใจว่าไม่มีผลกระทบกับธุรกิจของ GPSC อย่างแน่นอน เนื่องจากรายได้หลักของ GPSC มาจากการจำหน่ายไฟฟ้า ไอน้ำ และสาธารณูปโภคต่างๆ ให้แก่ลูกค้าหลัก 2 กลุ่ม คือกลุ่มการไฟฟ้า ที่ประกอบด้วยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ,การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) และการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ซึ่งเป็นหน่วยงานภาครัฐ
กลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม ซึ่งมีรายได้ที่ค่อนข้างมีความแน่นอน เนื่องจากเป็นการซื้อขายภายใต้สัญญาซื้อขายระยะยาวที่มีการกำหนดปริมาณและราคารับซื้อที่แน่นอน