ทั้งนี้ WCIH มีบริษัทลูก 1 บริษัท คือ บริษัท วุฒิศักดิ์ คลินิก อินเตอร์กรุ๊ป จากัด (WCIG) ซึ่งหลังการขายหุ้น 9% ใน WCIH จะทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของ FEORL ลดลงเหลือราว 51% จากเดิมราว 60% ขณะเดียวกันบริษัทก็จะเพิ่มทุนใน WCIH เพื่อรักษาสัดส่วนการถือหุ้นในระดับ 51% ต่อไป
EFORL ระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวานนี้ ในฐานะผู้ถือหุ้นเดิมของ WCIH จึงมีมติอนุมัติให้ลงทุนซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ WCIH และให้จองหุ้นเพิ่มทุนเกินสิทธิ กรณีมีผู้ถือหุ้นรายอื่นแจ้งแจ้งสละสิทธิจองซื้อหุ้นออกใหม่ ซึ่งการทำรายการดังกล่าวมีเงื่อนไขที่บริษัทต้องได้รับความยินยอมจากธนาคาร กสิกรไทย (KBANK) และ ธนาคารซี ไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) ซึ่งเป็นเจ้าหนี้เงินกู้ของบริษัท ซึ่งธนาคารให้ความยินยอมให้บริษัทเข้าทำรายการดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว
สำหรับการขายหุ้น 9% ใน WCIH จะเป็นการขายให้กับ ม.ร.ว.ศศิพฤนท์ จันทรทัต จำนวน 4.50 ล้านหุ้น คิดเป็นจำนวนเงิน 247.50 ล้านบาท และนายฟิลิป วีระ บุนนาค จำนวน 4.50 ล้านหุ้น คิดเป็นจำนวนเงิน 247.50 ล้านบาท ซึ่งทั้งสองจะชำระเงินภายในเดือนก.ย.นี้ โดยบริษัทได้รับการอนุมัติให้ทำรายการดังกล่าวจากธนาคารเจ้าหนี้เงินกู้ของบริษัท โดยธนาคารได้ปลดหุ้น 9 ล้านหุ้น ซึ่งบริษัทได้จำนาเพื่อค้าประกันหนี้เงินกู้ไว้กับธนาคาร เพื่อโอนให้แก่ผู้ขายรายการดังกล่าว ซึ่งรายการจะเสร็จสิ้นภายในเดือนก.ย.58
บริษัทคาดว่าการขายหุ้นสามัญของบริษัทย่อยเพียงบางส่วนให้กับนักลงทุนอิสระจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อบริษัท และผู้ถือหุ้น เนื่องจากรายการดังกล่าว จะทำให้บริษัทได้รับเงินค่าหุ้นเพื่อนำไปลงทุนซื้อหุ้นเพิ่มทุนในบริษัทย่อย และบริษัทย่อยสามารถนำเงินเพิ่มทุนไปลดภาระหนี้จากสถาบันการเงิน ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้บริษัทและกลุ่มบริษัทย่อย มีฐานะทางการเงินที่มั่นคงในระยะยาว
ขณะที่บริษัทจะจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนใน WCIH ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการให้จองเกินสิทธิกรณีผู้ถือหุ้นรายอื่นสละสิทธิการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน ทั้งนี้ไม่เกินจำนวน 16 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 50 บาท มูลค่ารวม 800 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าการเพิ่มทุนจะแล้วเสร็จภายในเดือนก.ย.นี้ ซึ่งจะทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทใน WCIH อยู่ที่ราว 51% หลังการเพิ่มทุนครั้งนี้