PAE มั่นใจสิ้นปีนี้ส่วนของผู้ถือหุ้นไม่ต่ำกว่าศูนย์ หลังมีแผนเพิ่มทุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday September 16, 2015 18:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.พีเออี (ประเทศไทย) (PAE) แจงตลาดหลักทรัพย์ฯหวังนำเงินจากการเพิ่มทุนที่จะเสนอขายผู้ถือหุ้นเดิม และนักลงทุนในวงจำกัด(PP) ที่คาดว่าจะได้เงินราว 1.5 พันล้านบาทมาช่วยแก้ปัญหาส่วนของผู้ถือหุ้นซึ่งจะทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นไม่ต่ากว่าศูนย์ ณ สิ้นปี 58 และการเพิ่มทุนจะมีสภาพคล่องและสัดส่วนทางการเงินที่ดีขึ้น ขณะที่ยังมั่นใจว่าภาวะอุตสาหกรรมเกี่ยวกับน้ามันและก๊าซธรรมชาติ ตลอดจนอุตสาหกรรมด้านปิโตรเคมี ที่บริษัทหันมามุ่งทำธุรกิจทดแทนงานรับเหมาก่อสร้าง จะกลับมาเจริญรุ่งเรืองอีกในไม่ช้านี้

PAE แจ้งว่าตามที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) มีความประสงค์ให้บริษัทดำเนินการชี้แจงข้อมูลในงบการเงินไตรมาสที่ 2/58 ถึงแนวทางแก้ไขปัญหาฐานะการเงินของบริษัท โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2558 บริษัทมีส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบ 8 ล้านบาท และมีผลขาดทุนสะสม 2,033 ล้านบาท ประกอบกับในรายงานการสอบทานงบการเงินของผู้สอบบัญชีได้มีข้อสังเกตเกี่ยวกับการมีผลขาดทุนจากการดำเนินงานต่อเนื่อง ฐานะการเงินแสดงหนี้สินหมุนเวียนรวม สูงกว่าสินทรัพย์หมุนเวียนจานวน 145 ล้านบาท ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดข้อสงสัยอย่างมากเกี่ยวกับความสามารถในการดาเนินงานต่อเนื่องของบริษัท และบริษัทอาจเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนหากงบการเงินประจำปีที่ผ่านการตรวจสอบ จากผู้สอบบัญชีรับอนุญาต ปรากฎส่วนของผู้ถือหุ้นต่ากว่าศูนย์

สาเหตุที่ทำให้บริษัทมีผลการดาเนินงานขาดทุนอย่างต่อเนื่องในระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากบริษัทไม่ประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวกับโครงการรับเหมาก่อสร้างอาคารซึ่งในขณะนั้นมีสัดส่วนรายได้ประมาณ 60-70% ของรายได้รวมของบริษัท โดยสาเหตุหลักที่ทำให้งบการเงินของบริษัทประสบกับภาวะการขาดทุนอย่างมากคือการมีต้นทุนค่าก่อสร้างสูงกว่ามูลค่างานตามสัญญา(Cost Overrun) และการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญของโครงการดังกล่าว เมื่อบริษัทไม่สามารถทำกาไรจากธุรกิจดังกล่าวได้จึงยุติสายงานการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวกับการรับเหมาก่อสร้างอาคารเมื่อปี 2557

บริษัทมีแผนการดำเนินกิจการมุ่งเน้นทางสายงานการให้บริการแก่ธุรกิจน้ามันและก๊าซธรรมชาติ และปิโตรเคมี เป็นหลัก โดยบริษัทมีสัญญาระยะยาวในการให้บริการก่อสร้างสาธารณูปโภคและการปรับปรุงซ่อมบำรุงแท่นขุดเจาะน้ามันบนบกจากลูกค้ารายใหญ่ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการสำรวจแหล่งผลิตน้ามันและก๊าซธรรมชาติ ตลอดจนบริษัทได้รับการต่อสัญญาระยะยาวในการให้บริการด้านประกอบติดตั้งอุปกรณ์ ให้เช่าเครื่องมืออุปกรณ์ และส่งคนงานไปทำงานบนแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติกลางทะเลจากลูกค้ารายใหญ่ต่างประเทศที่มีแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย รวมทั้งการขยายงานทางด้านการตรวจสอบแบบไม่ทำลาย (Non Destructive Testing) ซึ่งดำเนินการโดยบริษัทย่อยของบริษัท จากการดำเนินการข้างต้นทำให้รายได้หลักของบริษัท จะมาจากการให้บริการด้านอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเป็นหลัก

แต่อย่างไรก็ตามในช่วงต้นปี 2558 ที่ผ่านมาภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทยด้วยยังไม่สดใสนัก ประกอบกับอุตสาหกรรมเกี่ยวกับน้ำมันและก๊าซธรรมชาติอยู่ในภาวะตกต่ำจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกลดลงอย่างรวดเร็วและรุนแรง จึงทำให้ผู้ประกอบกิจการด้านการสำรวจและขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่สาคัญของบริษัทชะลอการลงทุนจึงมีผลทำให้การขยายตัวด้านรายได้ของบริษัทอยู่ในวงจำกัดและยังไม่สามารถสร้างรายได้มากพอที่จะชดเชยรายได้จากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่ขาดหายไป

ทั้งนี้บริษัทมีความมั่นใจว่าภาวะอุตสาหกรรมเกี่ยวกับน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ตลอดจนอุตสาหกรรมด้านปิโตรเคมี จะกลับมาเจริญรุ่งเรืองอีกในไม่ช้านี้เนื่องจากเป็นสินค้าอุปโภคที่มีความสำคัญในตลาดโลก โดยคาดว่าผลการดำเนินงานของบริษัทจะกลับมาขยายตัวได้ดีขึ้นตามภาวะอุตสาหกรรมดังกล่าวและจะส่งผลบวกให้ฐานะการเงินและสภาพคล่องทางการเงินของบริษัทดีขึ้นตามลาดับ

สำหรับการแก้ไขในเรื่องส่วนของผู้ถือหุ้นเพื่อมิให้ต่ากว่าศูนย์และนำไปสู่การเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนหลักทรัพย์นั้น บริษัทได้จัดประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 7/2558 เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2558 โดยมติที่ประชุมกำหนดให้ดำเนินการจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2558 ในวันที่ 29 กรกฎาคม 2558 เพื่อพิจารณา การเพิ่มทุนเสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิมจำนวนประมาณ 5,541 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 0.20 บาท และเสนอขายบุคคลในวงจำกัดจานวน 2,000 ล้านหุ้น ราคาไม่ต่ากว่า 90% ของราคาตลาด ซึ่งบริษัทคาดว่าจะได้รับเงินจำนวนประมาณ 1,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นรายการที่จะเพิ่มขึ้นมาในส่วนของผู้ถือหุ้นซึ่งจะทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นไม่ต่ากว่าศูนย์ ณ สิ้นปี 2558 อย่างแน่นอน กอปรกับผลจากการเพิ่มทุนดังกล่าวบริษัทจะมีสภาพคล่องและสัดส่วนทางการเงินที่ดีขึ้น และยังสามารถนาเงินไปใช้ ในการขยายกิจการตามที่วางแผนงานไว้ได้ ซึ่งจะทำให้ผลประกอบการของบริษัทดีขึ้นตามลาดับและการดำเนินกิจการของบริษัทจะเป็นไปอย่างมั่นคงต่อเนื่อง

แต่บริษัทเห็นว่าวัตถุประสงค์การใช้เงินจากการเพิ่มทุนในส่วนของการลงทุนในโครงการน้ำประปาและน้ำดิบ เพื่อการอุตสาหกรรม อาจเข้าข่ายเป็นรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ที่มีขนาดรายการเกินกว่าร้อยละ 50 ซึ่งจะต้องขออนุมัติ จากที่ประชุมผู้ถือหุ้น และต้องแต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงินอิสระให้ความเห็นต่อการทำรายการ ดังนั้นบริษัทโดยมติคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 8/2558 เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2558 จึงมีมติให้เลื่อนการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2558 ในวันที่ 29 กรกฎาคม 2558 ออกไปก่อน เพื่อจะได้มีเวลาในการเตรียมความพร้อม ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา แนวทางการเพิ่มทุนและหากมีความพร้อมเมื่อใด บริษัทจะดำเนินการจัดประชุมคณะกรรมการบริษัทเพื่อกำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในการพิจารณาวาระที่เกี่ยวกับการเพิ่มทุนใหม่อีกครั้งหนึ่งในทันที ซึ่งบริษัทคาดว่าจะเพิ่มทุนสำเร็จภายใน ปี 2558


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ