ต่อมา NA ได้รายงานให้ทราบว่าเมื่อวันที่ 29 ก.ย.58 NA ได้กระทำการได้มาซื้อหุ้นสามัญของบริษัท จำนวน 46,463,750 หุ้น ส่งผลให้ NA และบุคคลที่กระทำการร่วมกัน รวมถึงบุคคลตมมาตรา 258 ของบุคคลที่กระทำการร่วมกัน มีจำนวนหุ้นรวม 139,120,157 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 36.50 ของสิทธิการออกเสียงทั้งหมดของกิจการ ซึ่งข้ามจุดร้อยละ 25 ของสิทธิการออกเสียงทั้งหมดของกิจการ ส่งผลให้ NA ต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของกิจการ (Tender Offer)
NA จะเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทโดยเป็นหุ้นสามัญจำนวน 251,155,875 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ในราคาที่คาดว่าจะเสนอซื้อหุ้นละ 3.85 บาท
ดังนั้น เมื่อบริษัทได้รับคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ดังกล่าวอย่างเป็นทางการจาก NA แล้ว บริษัทจะดำเนินการเกี่ยวกับการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ดังกล่าวให้เป็นไปตามกฎหมายและ/หรือระเบียบที่เกี่ยวข้อง รวมถึงจัดทำความเห็นเกี่ยวกับคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ดังกล่วเพื่อจัดส่งให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทตามกฎหมายต่อไป