ทั้งนี้ บริษัท เซจแคปปิตอล จำกัด ในฐานะ IFA ให้ความเห็นต่อผู้ถือหุ้นของ SUPER ว่าไม่ควรอนุมัติการเข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ผ่านการซื้อหุ้นสามัญของบริษัทจำนวน 2 รายการ จากทั้งหมด 5 รายการ ได้แก่ การลงทุนในบริษัท พาวเวอร์ เทคโนโลยี อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (PTI) และบริษัท เอ็นเนอร์จี เซิฟ จำกัด (ESERVE) ซึ่งลงทุนในสัดส่วนร้อยละ 49 และร้อยละ 51 ตามลำดับ
เนื่องจากราคาประเมินมูลค่าที่เหมาะสมต่ำกว่าราคาซื้อ โดยกรณีการซื้อหุ้น PTI ที่ราคา 272.44 ล้านบาท ขณะที่ราคาเหมาะสมอยู่ที่ 20.0-111.4 ล้านบาท และกรณีการซื้อหุ้น ESERVE ที่ราคา 403.72 ล้านบาท ขณะที่ราคาเหมาะสมอยู่ที่ 89.4-227.6 ล้านบาท
รวมทั้งยังมีโครงการอีกจำนวน 3 โครงการของ ESERVE ที่ยังคงรอการตอบรับซื้อไฟฟ้าจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) อยู่ ซึ่งทำให้ยังมีความไม่แน่นอนที่จะได้รับสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) สำหรับทั้ง 3 โครงการ
นอกจากนี้ IFA มีความเห็นเพิ่มเติมว่าเงื่อนไขในการเข้าทำรายการทั้ง 5 รายการที่บริษัทได้ชำระเงินล่วงหน้าแล้วให้แก่คู่สัญญาในแต่ละรายการจำนวนมากนั้น IFA เห็นว่าไม่เหมาะสมไม่เป็นไปตามเงื่อนไข ในการทำสัญญาจะซื้อจะขายตามปกติ ซึ่งทำให้เกิดความไม่เป็นธรรมกับบริษัทและยังก่อให้เกิดค่าเสียโอกาสจากเงินที่บริษัทได้ชำระล่วงหน้าอีกด้วย