(เพิ่มเติม) ตลท.รับหลักทรัพย์ LPH เริ่มซื้อขาย 28 ต.ค.58

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday October 27, 2015 16:45 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ. โรงพยาบาล ลาดพร้าว (LPH) ผู้ให้บริการทางการแพทย์ครบวงจร พร้อมซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ 28 ต.ค.นี้ ในกลุ่มบริการ หมวดธุรกิจการแพทย์ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 3,750 ล้านบาท

นายสันติ กีระนันทน์ รองผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า บมจ. โรงพยาบาล ลาดพร้าว (LPH) จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มบริการ หมวดธุรกิจการแพทย์ ในวันที่ 28 ตุลาคม 2558 โดย LPH ประกอบธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนมานานกว่า 20 ปี โดยให้บริการทางการแพทย์ครบวงจรแก่ทั้งผู้ป่วยทั่วไปและผู้ป่วยตามโครงการประกันสังคม ในย่านลาดพร้าวและบริเวณใกล้เคียง นอกจากนี้ยังมีธุรกิจให้บริการตรวจวิเคราะห์ ทดสอบและวิจัยด้านอาหาร ผลิตผลการเกษตรและยา รวมทั้งธุรกิจสนับสนุนให้บริการทางการแพทย์และพัฒนาธุรกิจ

LPH มีทุนชำระแล้ว 375 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 550 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 200 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อกรรมการ ผู้บริหารของบริษัท และ/หรือบริษัทย่อย 20 ล้านหุ้น และเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) 180 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 5.00 บาท เมื่อวันที่ 16 และ 19-21 ตุลาคม 2558 มีมูลค่าระดมทุนรวม 1,000 ล้านบาท ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 3,750 ล้านบาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

นายอังกูร ฉันทนาวานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LPH เปิดเผยว่า การนำหุ้นสามัญของบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ครั้งนี้ จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งด้านเงินทุนให้กับบริษัทโดยจะนำเงินจากการระดมทุนไปใช้ในการขยายธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงในอนาคต ทั้งการลงทุนในโครงการศูนย์ประกันสังคมลาดพร้าว สถานพักฟื้นและดูแลผู้สูงอายุลาดพร้าวสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ในเขตลำลูกกาและส่วนที่เหลือจะนำไปชำระคืนเงินกู้ยืมและเป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท

LPH มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ บริษัท แอล.พี. โฮลดิ้ง จำกัด ถือหุ้น 26.80% กลุ่มตันฑเทอดธรรม ถือหุ้นรวม 5.05% และกลุ่มเศวตวิลาศ ถือหุ้นรวม 4.85% การกำหนดราคา IPO ทำโดยวิธี book building คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) 38.46 เท่า คำนวณจากกำไรสุทธิ 4 ไตรมาสย้อนหลัง (ไตรมาส 3 ปี 2557-ไตรมาส 2 ปี 2558) หารด้วยจำนวนหุ้นภายหลังการเสนอขายต่อประชาชน(fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.13 บาท

ทั้งนี้บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะของบริษัทหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและเงินสำรองตามที่กฎหมายกำหนด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ