สำหรับในครึ่งหลังปี 58/59 บริษัทคาดว่าจะมีรายได้ เพิ่มขึ้นจากพื้นที่ใหม่ ได้แก่ พื้นที่สื่อโฆษณาและร้านค้าให้เช่าบนสถานีบีทีเอสส่วนต่อขยาย 7 สถานี ที่ได้ลงนามสัญญาแล้วตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 58 ,จำนวนอาคารสำนักงานที่คาดว่าจะมีเพิ่มขึ้นเป็น 130 อาคาร จาก 103 อาคารในปีก่อน ,พื้นที่สื่อโฆษณาภายในและภายนอก อาคารจามจุรี สแควร์ ซึ่งเป็นกลุ่มอาคารในพื้นที่ใจกลางกรุงเทพฯ มีการใช้งานหลากลายประเภท มี พื้นที่การใช้งานรวมถึง 270,000 ตารางเมตร (ตร.ม.) และพื้นที่สี่อโฆษณาบนจอ LED ขนาดใหญ่ในพื้นที่ชุมชนในต่างจังหวัดที่บริษัทรับเป็นตัวแทนขายสื่อโฆษณา
"ช่วงไตรมาส 4 ของปีปฏิทิน คาดว่าสถานการณ์เศรษฐกิจน่าจะค่อยๆ ฟื้นตัวกลับเข้าสู่ภาวะปกติและเนื่องจากเป็นช่วง high season ผู้บริโภคก็จะกลับมาจับจ่ายใช้สอยตามเทศกาลต่างๆ เพิ่มมากขึ้น จึงเป็นช่วงเวลาที่เจ้าของสินค้าหรือเอเยนซี่โฆษณามักจะใช้งบประมาณซื้อสื่อโฆษณาเพิ่มขึ้นกว่าฤดูกาลอื่น"นายมารุต อรรถไกวัลวที กรรมการบริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ VGI กล่าว
นายมารุต กล่าวว่า แนวโน้มในไตรมาส 3 (ต.ค.–ธ.ค.) ตามงบการเงินของ VGI ปี 58/59 จะเป็นช่วงไฮซีซั่นประกอบกับจากมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐที่ทยอยออกมาหลายแนวทาง เช่น มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ในเรื่องลดค่าธรรมเนียมการโอนและค่าจดจำนอง โดยให้ธนาคารพาณิชย์มีมาตรการผ่อนคลายเงื่อนไขเงินกู้ ซึ่งจะผลักดันการเติบโตของภาคก่อสร้างและธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้องกันช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัว และจะยังส่งผลต่อเนื่องให้มีการใช้จ่ายงบโฆษณาในช่วงปลายปีที่เพิ่มมากขึ้น
บริษัทยังมีแผนขยายธุรกิจตัวแทนขายสื่อโฆษณาทั่วประเทศไทยร่วมกับพันธมิตรผู้ร่วมทุน บริษัท ไมดาส โกลบอล มีเดีย จำกัด ซึ่งเป็นผู้ลงทุนจัดหาพื้นที่และติดตั้งสื่อ LED ขนาดใหญ่ (Midas Clock Tower) ของที่ติดตั้งอยู่ย่านชุมชนหนาแน่นตามหัวเมืองใหญ่เฟสแรก 15 จังหวัด โดยจะชูจุดเด่นที่ลูกค้าสามารถทำ Localized Marketing หรือ การทำการตลาดเจาะจงเฉพาะคนในพื้นที่ ซึ่งสามารถเลือกใช้ภาษาท้องถิ่นเพื่อสื่อสารข้อมูลข่าวสารโปรโมชั่นสินค้า โดยเจาะจงเฉพาะกลุ่มเป้าหมายในท้องถิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
นางศุภรานันท์ ตันวิรัช ผู้อำนวยการใหญ่สายการเงิน ของ VGI กล่าวว่า สำหรับในไตรมาส 2 ของปี 58/59 สื่อโฆษณาหลักของ VGI ได้แก่ ธุรกิจสื่อโฆษณาในระบบขนส่งมวลชนบีทีเอสและสื่อในลิฟท์อาคารสำนักงาน ยังคงรักษาระดับการเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยในไตรมาส นี้มีรายได้โดยรวม 537 ล้านบาท เติบโต 10% จากงวดปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 259 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากปีก่อน (ไม่รวมฐานรายได้และกำไรจากธุรกิจสื่อโฆษณาในห้างสรรพสินค้าซึ่งสัญญาสิ้นสุดลงแล้ว) โดยไตรมาส 2 นี้ บริษัทรับรู้รายการพิเศษหลายรายการรวมเป็นกำไรพิเศษสุทธิ(หลังหักภาษี) จำนวน 46 ล้านบาท ซึ่งกำไรพิเศษดังกล่าว มาจากผลกำไรจากการขายกิจการในต่างประเทศเป็นหลัก
บริษัทมีรายได้จากพื้นที่สื่อโฆษณาและพื้นที่ร้านค้าให้เช่าบนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสเพิ่มขึ้น 7% สื่อโฆษณาในลิฟท์อาคารสำนักงานมีรายได้ไตรมาส 2 เติบโตถึง 28% จากงวดปีก่อน เป็นผลจากการเร่งขยายเครือข่ายสื่อในลิฟท์อาคารสำนักงานอย่างก้าวกระโดด ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยสำคัญของธุรกิจที่ผลักดันให้ VGI ยังคงรักษาอัตราการเติบโตของรายได้โฆษณาได้ดีกว่าอุตสาหกรรมโฆษณาโดยรวมและด้วยโครงสร้างทางการเงินที่แข็งแรง มีต้นทุนดำเนินงานที่ต่ำมาก สามารถสร้างผลกำไรต่อยอดขาย หรือ Margin of Safety ที่แข็งแกร่งถึง 48% จึงมีภูมิต้านทานต่อสภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ดีกว่าผู้ประกอบการรายอื่นในอุตสาหกรรมโฆษณา และเชื่อว่าอุตสาหกรรมโฆษณาผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาสนี้