NCL ชี้แจงเรื่องดังกล่าวภายหลังจากที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้สอบถามถึงพัฒนาการใดๆ ที่อาจส่งผลต่อราคาหลักทรัพย์ โดยบริษัทระบุว่าบริษัทเป็นบริษัทโลจิสติกส์ของไทยบริษัทแรกที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และมีบริการครบวงจรรวมถึงการให้บริการระหว่างประเทศที่มีทิศทางการขยายขอบข่ายการทำธุรกิจอย่างชัดเจน ทำให้มีกองทุนต่างชาติ เข้ามาติดต่อขอร่วมลงทุนด้วยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีการพูดคุยกับทางกองทุนต่างชาติจริง แต่ทางบริษัทก็ยังไม่ได้มีข้อสรุปใดๆอันเป็นสาระสำคัญกับกองทุนใดๆ ในระยะเวลาอันใกล้นี้
เนื่องจากทางผู้ถือหุ้นใหญ่ยังจะคงสัดส่วนการถือหุ้นเดิมอยู่ รวมถึงการขยายธุรกิจยังอยู่ในกรอบที่ทางบริษัทสามารถทำได้เองโดยไม่ต้องอาศัยกองทุนจากต่างชาติ ขณะที่ข่าวที่กำลังเป็นประเด็นอยู่นี้ ไม่ใช่เป็นครั้งแรก และไม่ใช่กองทุนจากประเทศมาเลเซีย แต่เป็นกองทุนจากประเทศญี่ปุ่น แต่ก็ยังไม่มีบทสรุปใดๆอันเป็นสาระสำคัญ สำหรับการหยุดกิจกรรมที่ท่าเรือระนองตั้งแต่ไตรมาสที่ 3/58 ซึ่งมีผลขาดทุน และกลับมามุ่งทำธุรกิจหลักเดิมตั้งแต่ไตรมาสที่ 4/58 ที่จะมีอัตราการเติบโตของรายได้และกำไรตามปกติ อย่างไรก็ตาม บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาการกำหนดวาระการประชุมซึ่งยังมีความไม่แน่นอนอยู่ และจัดการประชุมคณะกรรมการบริษัท ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 12 พ.ย.58 ทั้งนี้ หากบริษัทมีความคืบหน้าใดๆที่เป็นสาระสำคัญจะแจ้งให้ตลาดหลักทรัพย์ฯเพื่อเผยแพร่ต่อสาธารณชนและนักลงทุนต่อไป
อนึ่ง หุ้น NCL เพิ่มขึ้นติดต่อกัน 3 วัน โดยราคาหุ้นปิดวานนี้อยู่ที่ 3.02 บาท เพิ่มขึ้น 0.54 บาท หรือ 21.77%