ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ประเทศญี่ปุ่น ระยะที่ 2 กำลังการผลิตรวม 15 เมกะวัตต์ ซึ่งภายหลังจากที่โครงการ Hamada 1 เดินเครื่องผลิตไฟฟ้าแล้ว จะทำให้บริษัทมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่จำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์และรับรู้รายได้แล้วทั้งสิ้น 7 โครงการ กำลังการผลิตประมาณ 23 เมกะวัตต์ ส่วนโครงการที่เหลือบริษัทจะแจ้งความคืบหน้าต่อไป
นายอนาวิล จิรธรรมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ CHOW กล่าวว่า โครงการโรงไฟฟ้าที่จ่ายไฟเข้าระบบทั้ง 7 โครงการ มาจากการลงทุนในระยะที่ 1 จำนวน 12 เมกะวัตต์ และระยะที่ 2 จำนวน 11 เมกะวัตต์ จากทั้งหมดที่มีการลงทุนรวม 2 ระยะ รวม 33 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น ระยะแรก 18 เมกะวัตต์ และระยะที่ 2 อีก 15 เมกะวัตต์ ทำให้ยังมีโครงการที่เหลืออีก 10 เมกะวัตต์ อยู่ระหว่างการพัฒนาและรอเชื่อมต่อสายส่งกันการไฟฟ้าญี่ปุ่น
หลังจากนี้บริษัทพร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจพลังงานอย่างต่อเนื่อง ทั้งโครงการในประเทศและต่างประเทศ โดยโครงการในต่างประเทศปัจจุบันมีประเทศญี่ปุ่นเป็นตลาดหลัก เนื่องจากยังต้องการใช้ไฟฟ้าจากโครงการพลังงานทดแทนอีกเป็นจำนวนมาก และบริษัทมีศักยภาพในการขยายธุรกิจเป็นอย่างดี โดยจะดำเนินธุรกิจคู่ขนานกันไปทั้ง 3 รูปแบบ ทั้งโครงการที่ลงทุนด้วยตัวเองผ่านบริษัทย่อย โครงการที่พัฒนาเพื่อขายให้กับพันธมิตรและโครงการที่ลงทุนร่วมกันพันธมิตร ซึ่งตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป บริษํทจะรับรู้รายได้จากการลงทุนในธุรกิจพลังงานอย่างมีนัยสำคัญ และสนับสนุนให้ผลประกอบการของบริษัทเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต