ทั้งนี้ ตามแผนเพิ่มทุนจดทะเบียนจะมีทุนจดทะเบียนใหม่ที่ 11,931,044,548 บาท จาก 4,134,192,138 บาท โดยออกหุ้นเพิ่มทุนใหม่ 7,796,852,410 บาท มูลค่าที่ตราไว้(พาร์) หุ้นละ 1 บาท โดยจะจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนไม่เกิน 6,926,852,410 หุ้น ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วน 1 หุ้นเดิม ต่อ 2.5 หุ้นใหม่ ในราคาเสนอขายหุ้นละ 0.15 บาท และจำนวนไม่เกิน 870,000,000 หุ้น เพื่อรองรับการปรับสิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิ ที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 1 (PAE-W1)
ตามแผนเพิ่มทุนดังกล่าว จะช่วยเพิ่มส่วนของผู้ถือหุ้นให้มีความแข็งแกร่งและแก้ปัญหาส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบ ซึ่งอาจส่งผลให้หลักทรัพย์ของบริษัทเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน เพื่อชำระเงินกู้ยืมสถาบันการเงินและเจ้าหนี้การค้า ซึ่งเป็นการลดภาระต้นทุนทางการเงินและสร้างความน่าเชื่อถือทางการค้า โดยจะใช้เงินในสัดส่วนประมาณ 30% ของเงินเพิ่มทุนที่ได้รับ และ เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการของบริษัทโดยจะใช้เงินในสัดส่วนประมาณ 30% ของเงินเพิ่มทุนที่ได้รับ อีกทั้งใช้ในการลงทุนเพื่อขยายธุรกิจเดิมและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจเดิมของบริษัท เพื่อใช้สำหรับการลงทุนในธุรกิจหรือกิจการใหม่ รวมถึงลงทุนในสินทรัพย์ที่มีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนที่ดีในการลงทุน
ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.) ขึ้นเครื่องหมาย H หลักทรัพย์ PAE-W1 ในช่วงเช้าวันนี้ หลังบริษัทยังไม่แจ้งยกเลิกการปรับสิทธิ PAE-W1
อย่างไรก็ตามที่ประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อวานนี้ ได้อนุมัติการยกเลิกการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนเพื่อขายให้กับบุคคลในวงจำกัด (PP) และการออก PAE-W2 ในวาระ 3-5 แต่ไม่อนุมัติแผนเพิ่มทุนใหม่เพื่อขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิมและรองรับการปรับสิทธิ PAE-W1 ดังกล่าว ในวาระ 6-7 ขณะที่วาระ 3-7 มีความเกี่ยวเนื่องกัน ซึ่งหากเรื่องใดในวาระหนึ่งไม่ได้รับการอนุมัติจะถือว่าเรื่องอื่นๆที่ได้รับอนุมัติแล้วเป็นอันยกเลิก