อย่างไรก็ตาม การจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทร่วมทุนดังกล่าวเป็นเพียงการเตรียมการเพื่อยื่นประมูลให้ได้มาซึ่งสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ภายในไตรมาส 1 ของปี 59 ซึ่งยังมีความไม่แน่นอนถึงจำนวนบริษัทที่จะสามารถชนะการประมูลเพื่อได้มาซึ่ง PPA รวมถึงเงินลงทุนที่บริษัทฯ จะใช้ในการดำเนินโครงการทั้งหมด ดังนั้นภายหลังทราบผลการเข้าประมูล ภายในไตรมาส 2 ของปี 59 แล้ว บริษัทฯ จะต้องแจ้งข้อมูลต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รวมถึงการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การได้มาซึ่งทรัพย์สินต่อไป
นอกจากนี้ บริษัทฯ รายงานข้อมูลเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ ยังคงมีนโยบายการดำเนินธุรกิจหลักของบริษัทฯ คือ ประกอบธุรกิจเป็นผู้ออกแบบและผลิตชิ้นส่วนยานยนต์, บริการรับออกแบบผลิตภัณฑ์และผลิตแม่พิมพ์พลาสติก, รับจ้างฉีดชุบโครเมียม, พ่นสี, ประกอบ ชิ้นงานทุกประเภท โดยในอนาคต บริษัทฯ มีแผนจะขยายการดำเนินธุรกิจไปในด้านพลังงานทดแทน ได้แก่ ธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานชีวมวล(Biomass Power Plant) ซึ่งเป็นผลให้บริษัทฯ เข้าร่วมเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทแห่งใหม่รวม 5 บริษัทดังกล่าว
ขณะที่ บมจ.อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค(ECF)รายงานเช่นเดียวกันว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติให้บริษัท อีซีเอฟ โฮลดิ้งส์ จำกัด ในฐานะ บริษัทย่อย (ECFH) ที่บริษัทฯ เข้าถือหุ้นในสัดสว่ นร้อยละ 51 และมีแผนการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นเป็นร้อยละ 75 ภายในไม่เกินเดือนมกราคม 2559 เป็นผู้เข้าลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล (Biomass Power Plant) โดยการเข้าร่วมเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทแห่งใหม่รวม 5 บริษัท เพื่อเตรียมเข้าร่วมประมูลรับคัดเลือกและอนุญาตเป็นผู้เสนอขายไฟฟ้าเพื่อให้ได้มาซึ่งสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) หรือการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ตามแต่กรณีไป คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนเรมิ่ ต้นเท่ากับ 8.96 ล้านบาท ใช้แหล่งเงินทุนจากเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ