ทั้งนี้ส่งผลให้บริษัทฯมีโครงการที่ COD และรับรู้รายได้แล้ว 7 โครงการ กำลังผลิต 23 เมกะวัตต์ จากการลงทุนระยะที่ 1 จำนวน 18 เมกะวัตต์ และระยะที่ 2 จำนวน 15 เมกะวัตต์ ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างพัฒนาและเชื่อมต่อสายส่ง
นายอนาวิล จิรธรรมศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เชาว์ เอ็นเนอร์ยี่ (CE) บริษัทย่อยที่ดูแลธุรกิจพลังงานในเครือ บมจ.เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ (CHOW) เปิดเผยถึง ความคืบหน้าของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์(Solar Farm) ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งลงทุนผ่านบริษัทย่อยว่า ขณะนี้โรงไฟฟ้าโครงการ Hamada 1 ขนาดกำลังการผลิต 11 เมกะวัตต์ (DC) ได้ผ่านกระบวนการทดสอบการเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าและอุปกรณ์ที่สำคัญต่างๆ เรียบร้อยแล้ว และได้เชื่อมต่อสายส่งจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (Commercial Operation Date: COD) กับการไฟฟ้าญี่ปุ่นแล้วเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2558 ซึ่งจะรับรู้รายได้ทันที ส่งผลให้ในปี 2558 CHOW จะมีรายได้จากการลงทุนในธุรกิจพลังงานอย่างมีนัยสำคัญ และสนับสนุนให้ผลประกอบการของบริษัทฯ เติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต
สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ Hamada 1 เป็นโครงการที่บริษัทฯ อนุมัติลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ประเทศญี่ปุ่นในระยะที่ 2 กำลังการผลิตรวม 15 เมกะวัตต์ ดังนั้น เมื่อรวมกับก่อนหน้านี้ที่โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศญี่ปุ่นของ CHOW ได้จำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ แล้ว 6 โครงการ
คือ โรงไฟฟ้าโนงะตะ(Nogata) กำลังการผลิต 1 เมกะวัตต์ (DC)โครงการโรงไฟฟ้าโคเรียล (Goryo) กำลังการผลิต 1.5 เมกะวัตต์ (DC)และโครงการโรงไฟฟ้าชิบูชิ (Shibushi) กำลังการผลิต 1 เมกะวัตต์ (DC) โครงการอิบารากิ ขนาดกำลังการผลิต 1.20 เมกะวัตต์ (DC)โครงการเกียวแทงโก (Kyotango) กำลังการผลิต 4.019 เมกะวัตต์ (DC) และโครงการโออิตะ (Oita) ขนาดกำลังการผลิต 3.2604 เมกะวัตต์ (DC) ทำให้ปัจจุบัน CHOW มีโครงการโรงไฟฟ้าที่จ่ายไฟเข้าระบบในเชิงพาณิชย์แล้ว 7 โครงการ จำนวน 23 เมกะวัตต์ จากการลงทุนในระยะที่ 1 จำนวน 18 เมกะวัตต์ และระยะที่ 2 จำนวน 15 เมกะวัตต์ ส่วนโครงการที่เหลืออีก 10 เมกะวัตต์ อยู่ระหว่างการพัฒนาและรอเชื่อมต่อสายส่งกันการไฟฟ้าญี่ปุ่น