นายสันติ กีระนันทน์ รองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า AMATAV จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง หมวดธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ในวันที่ 16 ธันวาคม 2558 เป็นหลักทรัพย์ลำดับที่ 3 ที่เข้าจดทะเบียนในรูปแบบ holding company ซึ่งมีบริษัทแกนอยู่ต่างประเทศ สอดคล้องกับแผนงานสำคัญของตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการเป็นช่องทางระดมทุนให้กับธุรกิจทั้งในประเทศและในภูมิภาคพร้อมเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ลงทุน
AMATAV ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (holding company) โดยลงทุนในบริษัท Amata Vietnam Joint Stock Company ซึ่งดำเนินธุรกิจหลักในการพัฒนานิคมอุตสาหกรรม โครงการ Amata City (Bien Hoa) รวมทั้ง พัฒนาโครงการพาณิชยกรรมและที่อยู่อาศัย ที่ชื่อว่า Amata Commercial Complex ทั้งนี้ AMATAV เป็นบริษัทย่อยของ บมจ. อมตะ คอร์ปอเรชั่น (AMATA) ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่เล็งเห็นโอกาสเติบโตของบริษัทย่อยและนำเข้าจดทะเบียน เพื่อสร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน
AMATAV มีทุนชำระแล้ว 467.5 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 768.63 ล้านหุ้นและหุ้นสามัญเพิ่มทุน 166.37 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นแก่ผู้ถือหุ้นของ AMATA จำนวน 42.68 ล้านหุ้น และประชาชนทั่วไป 123.69 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 7.50 บาท เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน-4 ธันวาคม 2558 คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 1,247.77 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 7,012.50 ล้านบาท โดยมีธนาคาร ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย
นางสมหะทัย พาณิชชีวะ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AMATAV เปิดเผยว่า การนำหุ้นสามัญของบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของบริษัทฯ และใช้ในการขยายธุรกิจเพื่อสนับสนุนการเติบโตของบริษัทฯ ในอนาคต ซึ่งจะพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมของอมตะในประเทศเวียดนาม โดยเฉพาะแผนการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมอมตะ ซิตี้ ลองถั่น จ. ดองไน สำหรับรองรับนักลงทุนกลุ่มอุตสาหกรรมไฮเทค ซึ่งจะเริ่มพัฒนาในปี 2559 คาดว่าจะสามารถขายและรับรู้รายได้ ได้ภายในปี 2560 บริษัทฯ เชื่อว่าเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ จะสร้างโอกาสที่ดีทางธุรกิจของบริษัท จนนำมาสู่ความสำเร็จและทำให้บริษัทเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง
AMATAV มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 36.4% บริษัท อมตะ เอเชีย จำกัด ถือหุ้น 36.21% บริษัท อี.ซี.ไอ. กรุ๊ป จำกัด ถือหุ้น 2.47% และ กลุ่มสหพัฒน์ ถือหุ้น 2.47% การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO ทำโดยวิธี book building ซึ่งเป็นวิธีการสอบถามปริมาณความต้องการซื้อหุ้นสามัญของนักลงทุนสถาบันในแต่ละระดับราคา คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) 28.85 เท่า โดยคำนวณจากกำไรสุทธิใน 4 ไตรมาสล่าสุด (1 ตุลาคม 2557-30 กันยายน 2558) หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญภายหลังการเสนอขายในครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.26 บาท
บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีและหลังหักสำรองตามกฎหมายตามงบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทฯ