ขณะเดียวกัน บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 30% ต่อเนื่อง 3 ปี (ปี 58-60) โดยสัดส่วนรายได้จะหลักจะยังมาจากตู้บุญเติม ที่บริษัทตั้งเป้าที่จะขยายในปี 59 อย่างน้อยอีก 2 หมื่นตู้ จากปีนี้ที่มีตู้บุญเติมทั้งหมด 6.5 หมื่นตู้ ตาชั่งหยอดเหรียญปัจจุบันมีอยู่ราว 3 พันจุด และจะขยายเป็น 2 หมื่นจุด ในปี 59 และเคาน์เตอร์เซอร์วิสปัจจุบันมีอยู่ 500 ตู้ ในปี 59 เตรียมขยายอีก 500 ตู้ ขณะที่ตู้กดน้ำดื่มสะอาด (อาร์โอ)และตู้ขายสินค้าอัตโนมัติ ปัจจุบันอยู่ระหว่างทำแผนคาดว่าจะได้ข้อสรุปในช่วงต้นปีหน้า
สำหรับการพัฒนาการให้บริการของตู้อัตโนมัตินั้น ในช่วงต้นปี 59 จะเริ่มเห็นการโอนเงินผ่านตู้บุญเติม โดยได้เจรจากับธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงไทย และธนาคารกรุงเทพ นอกจากนั้นยังมีบริการล่าสุด คือ การเติมเงินเข้า Wallet เพื่อใช้จ่ายเงินผ่านระบบออนไลน์ โดยปัจจุบันให้บริการกับกลุ่ม บมจ.ทรูคอร์ปอเรชั่น (TRUE) และเตรียมขยายเพิ่มขึ้นอีกหลายราย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับ mPAY เพิ่มเติมด้วย
นอกจากนี้ทาง บมจ.จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล (JAS) ได้มาเจรจาร่วมมือทางธุรกิจกับบริษัท ซึ่งก่อนหน้านี้คาดว่าจะเห็นความร่วมมือทางธุรกิจกันหลัง JAS ประมูล 4G คลื่นความถี่ 900 MHZ สำเร็จ
"เรายังมุ่งมั่นที่จะขยายตู้ และบริการใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง ส่วนผู้เล่นรายใหม่ๆที่เข้ามาแข่งขันในตลาดนี้เราไม่กลัว เพราะปัจจุบันเราถือว่าเป็นอันดับหนึ่ง และมีจำนวนตู้มากที่สุดในประเทศ แต่เราก็ไม่ได้ประมาท ซึ่งเราก็ต้องมีการติดตามว่าเป้าหมายของคู่แข่งจะเป็นไปตามเป้าหมายได้มากน้อยแค่ไหน แต่จากที่ผ่านมาเราก็ยังไม่เห็นเขาทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้"นายสมชัย กล่าว